ถ้าเราตั้งคำถามว่า หากให้คิดถึงผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยวกว่ามะนาว จะนึกถึงผลไม้อะไร คำตอบที่จะได้ ผลไม้กะทกรก แต่บางคนอาจจะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Passion Fruit ผลไม้ชนิดนี้ ดั่งเดิมแล้วถูกนำเข้ามาจากแอฟริกาใต้ ก่อนที่จะมีหน่วยงานการเกษตรได้ทำการเพาะปลูกจนสำเร็จ กะทกรกนี้จัดว่าเป็นผลไม้ ที่มีสารวิตามิน C ที่เยอะมาก สายพันธุ์ของกะทกรกในประเทศไทย มีอยู่ด้วยกันหลัก 3 สายพันธุ์ แบ่งแยกตามสี ได้แก่ สีเหลือง, สีส้ม และสีม่วง ทั้ง 3 สายพันธุ์นี้ต่างก็มีรสชาติที่เปรี้ยวเหมือนกัน การรับประทานกะทกรกนี้ มักกินได้แบบสด หรือคั่นเป็นเครื่องดื่ม ส่วนใหญ่แล้วการรับประทานเป็นเครื่องดิ่ม จะได้รับความนิยมมากกว่า ด้วยรสชาติความเปรี้ยวของกะทกรกนั้น ทำให้มีจำนวนคนไม่น้อยที่ไม่ค่อยอยากกินผลไม้กะทกรกเพราะไม่รู้ว่ากะทกรกนี้มีสรรพคุณ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเยอะมาก บทความนี้เราจะมาบอกถึงประโยชน์ของกะทกรกว่ามีอะไรบ้าง อาหารเด็ดทั่วไทย 6 ประโยชน์ของ ผลไม้กะทกรก ที่สรรพคุณดีต่อร่างกายไม่ได้มีดีแค่รสเปรี้ยว Latest Posts

ผลไม้มะเดื่อฝรั่ง มีชื่อเรียกสั้น ๆ ว่า ลูกฟิก เป็นสายพันธุ์เดียวกับต้นโพธิ์ และต้นหม่อน สำหรับมะเดื่อฝรั่งนี้ มีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปแอฟริกาเหนือ ปัจจุบันนี้ในเมืองไทยสามารถพบเห็นต้นมะเดื่อฝรั่งเป็นจำนวนมาก อยู่ทุกจังหวัด เพราะเป็นต้นไม้ที่ปลูกขึ้นได้ง่าย ต้นมะเดื่อฝรั่งถือเป็นผลไม้ ที่มีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพร่างกายที่สูง จนสมเด็จย่า ได้ให้นักวิทยาศาสตร์ของโครงการหลวงจังหวัด อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ให้ทำการวิจัยว่า ผลไม้มะเดื่อฝรั่งนี้ มีสรรพคุณ และแปรรูปเป็นอาหารอะไรได้บ้าง การวิจัย สรรพคุณประโยชน์ของมะเดื่อฝรั่ง นี้ ใช้เวลายาวนานถึง 20 ปี และได้มีการให้ชาวเขาที่เคยปลูกฝิ่น หันมาปลูกต้นมะเดื่อฝรั่งทดแทน จนการเป็นผลไม้ที่ทำให้ชาวเขามีรายได้ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อาหารเด็ดทั่วไทย 4 สรรพคุณประโยชน์ของมะเดื่อฝรั่ง ที่มีต่อร่างกาย เมื่อรับประทานบ่อย ๆ  1. สรรพคุณประโยชน์ของมะเดื่อฝรั่งมีสารที่สามารถช่วยต้านอนุมูลอิสระ ผลไม้ ที่ชื่อว่ามะเดื่อฝรั่งนี้ ภายในมีสารอาหารที่มีประโยชน์ ช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ เยอะมาก เช่น สารพอลีฟีนอล , แอนโทไซยานิน และฟลาโวนอยด์ สารอาหารทั้ง 3 ชนิดนี้มีคุณสมบัติสามารถต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี เมื่อรับประทานมะเดื่อฝรั่งเป็นประจำ เซลล์ร้ายต่าง ๆ ที่อยู่ภายในร่างกาย จะไม่สามารถเจิรญเติบโตพัฒนากลายเป็นโรคร้ายได้ โดยเฉพาะโรคมะเร็ง และความจำเสื่อม ส่วนใครที่มีอาการปวดเมื่อยตามข้อ การกินมะเดื่อฝรั่งสามารถช่วยทุเลาอาการปวดของข้อเหล่านั้นได้2. สรรพคุณประโยชน์ของมะเดื่อฝรั่งช่วยแก้โรคท้องผูก และมะเร็งลำไส้ใหญ่ การที่คนเราท้องเสียอยู่บ่อย ๆ เกิดจากร่างกายไม่ค่อยได้กินอาหารที่มีกากใยอาหาร เพราะกากใยอาหารนี้ สามารถช่วยให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดี ถ้าใครที่รู้ตัวว่าท้องผูก และเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ แนะนำให้กินมะเดื่อฝรั่งติดต่อกัน อย่างน้อย 2 เดือน ในผลมะเดื่อฝรั่งจะมีการใยอาหารที่สูง จะไปช่วยทำให้ระบบการย่อยอาหาร และระบบการขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ยังช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ให้ตายไปในที่สุด3. ช่วยในการลดน้ำหนัก ในมะเดื่อฝรั่งนั้น มีเส้นใยที่จะทำให้รู้สึกอิ่มท้องไม่ค่อยอยากกินอาหาร หรือของจุกจิก และยังส่งผลให้ร่างกายมีสุขภาพที่แข็งแรง4. สรรพคุณประโยชน์ของมะเดื่อฝรั่งช่วยควบลดน้ำตาลในกระแสดเลือด เป็นผลไม้ที่เหมาะกับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน มะเดื่อฝรั่งนั้น เป็นผลไม้ที่สามารถลดน้ำตาลในกระแสเลือดไม่ให้สูงจนเป็นอันตรายต่อร่างกาย วิธีการกินให้ใช้ใบมะเดื่อฝรั่งไปตากแดด แล้วนำมาบดชงกับน้ำร้อน ดื่มแทนน้ำเปล่า ในวันหนึ่งให้ดื่มอย่างน้อย 3 เวลา เช้าเที่ยงเย็น Latest Posts

ผลไม้ตระกูลส้ม เหล่านี้ให้รสชาติเปรี้ยวอันเป็นเอกลักษณ์ และยังเป็นส่วนเสริมสำคัญที่ทำให้อาหารมีรสชาติหลากหลาย โดยเฉพาะในอาหารไทยที่เน้นความครบเครื่อง  นอกจากนั้น ผลไม้ตระกูลส้ม ที่มีความเป็นกรด ก็ยังสามารถทำให้อาหารสุกได้ระดับหนึ่งด้วย กรณีทำลาบดิบ ก้อยดิบ เป็นต้น ทว่าความสุกจากกรดไม่เหมือนกับความสุกโดยความร้อน ดังนั้นยังควรระวังเรื่องปรสิตและแบคทีเรียในอาหารเสมอ ผลไม้ตระกูลส้ม ที่รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ช่วยเพิ่มความอร่อย ผลไม้ตระกูลส้ม ผลไม้ชนิดแรกที่จะช่วยเพิ่มความอร่อยให้เมนูอาหาร ก็คือ ส้มสีเลือด (Blood Orange) แม้ชื่อจะฟังน่ากลัว แต่นั่นก็เพราะมาจากจุดเด่นของเนื้อส้มซึ่งมีสีแดง มีรสชาติหวานอร่อย นิยมนำมาใช้ในขนมอบ เพราะสีที่สวยนี้จึงนิยมใช้ตกแต่งขนมด้วย โดยการเชื่อม สีแดงเหล่านี้เกิดจากสารแอนโธไซยานิน ซึ่งเป็นเม็ดสีโพลีฟีนอลแบบเดียวกับที่ให้สีในบีทรูทนั่นเอง ผลไม้ตระกูลส้ม ผลไม้ชนิดที่สองที่จะช่วยเพิ่มความอร่อยให้เมนูอาหาร ก็คือ ส้มจี๊ด (Tangelo) เป็นผลไม้ตระกูลส้มลูกผสมระหว่างส้มโอและส้มเขียวหวาน มีขนาดลูกเล็ก รสเปรี้ยวเป็นเอกลักษณ์ เมื่อรับประทานจะได้สัมผัสกับความหวานทันทีตามด้วยความเปรี้ยว ส้มจี๊ดมักไม่มีเมล็ด เปลือกของมันลอกออกได้ง่าย ทำให้สามารถทดแทนส้มเขียวหวานได้อย่างดีเยี่ยม ใช้ทำอาหารหวานหรือคาวก็ได้ ผลไม้ตระกูลส้ม ผลไม้ชนิดที่สามที่จะช่วยเพิ่มความอร่อยให้เมนูอาหาร ก็คือ มะปี๊ด (Calamansi) มีความคล้ายส้มจี๊ด บางทีก็เรียกชื่อปะปนกัน อันที่จริงแล้วมีความต่างอยู่ที่เปลือกนอก โดยส้มจี๊ดนั้นมีเปลือกสีส้ม ลักษณะผลด้านบนมีจุกขั้ว ส่วนมะปี๊ดลูกกลมเล็กคล้ายมะนาว แต่มีผิวสีส้มปนเขียว และมีเนื้อด้านในเป็นสีส้มเหมือนกับส้มทั่วไป มะปี๊ดนิยมใช้ในฟิลิปปินส์และมาเลเซีย ให้รสชาติที่หวานกว่ามะนาว ผลไม้ตระกูลส้ม ผลไม้ชนิดที่สี่ที่จะช่วยเพิ่มความอร่อยให้เมนูอาหาร ก็คือ มะนาวเมเยอร์ (Mayer Lemon) มีความแตกต่างจากเหลืองที่พบบ่อยในอาหารตะวันตก มีขนาดเล็กและผิวเรียบอีกทั้งยังมีเนื้อฉ่ำกว่าและให้รสชาติเปรี้ยวน้อยกว่า ดังนั้นจึงสามารถปรุงได้เฉพาะอาหารรสชาติอ่อนๆ เช่น สลัด โยเกิร์ต ขนม หรือตกแต่งหน้าเค้ก เป็นต้น รูปทรงของผลและลำต้นของมะนาวเมเยอร์นั้นมีความสวยงาม บางครั้งก็ใช้ปลูกเพื่อประดับบ้านด้วย ผลไม้ตระกูลส้ม ผลไม้ชนิดที่ห้าที่จะช่วยเพิ่มความอร่อยให้เมนูอาหาร ก็คือ มะนาวแป้น มีขนาดเล็กกว่ามะนาวที่เราเห็นทั่วไปในท้องตลาด แต่มีรสชาติที่เปรี้ยวแหลมกว่า และมีกลิ่นขมกว่า  นอกจากนี้ยังมีเมล็ดมาก แต่นิยมใช้ในอาหารไทยมากๆ เพราะผิวบาง ให้น้ำเยอะ รสชาติชัดเจน ส่วนใหญ่มะนาวที่ใช้ในการตำส้มตำก็มักเป็นมะนาวแป้นนี่เอง เมื่อเราได้ทราบตัวอย่างของ ผลไม้ตระกูลส้ม ที่มีหลากหลายนี้แล้วก็จะพบว่าแต่ละชนิดนั้นสามารถนำไปใช้งานได้ต่างกัน อีกทั้งยังให้ความอร่อย รสชาติที่แตกต่างกัน บางชนิดก็ถูกใช้ในท้องถิ่นของประเทศต่างๆ ดังนั้นควรเลือก ผลไม้ตระกูลส้ม ให้เหมาะสม หรืออาจจะทดลองสูตรอาหารใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายและความสนุกสนานให้กับการทำอาหารของคุณดูก็ได้ เว็บไซต์เราได้แนะนำ ข้อมูลการทำอาหาร ที่คัดสรรเมนูอร่อยมาเสิร์ฟไว้ให้คุณแล้ว ขนมปังแซนวิช มื้อง่ายยามเช้าอร่อยอิ่มท้อง อาหารของคนรักสุขภาพ กินแล้วดี มีประโยชน์สารพัด วิธีปรับสูตรอาหาร สำหรับคนลดน้ำหนัก ให้ผอมได้อย่างยั่งยืน เคล็ดลับขนมปัง แช่ตู้เย็นไว้…