ไม่ว่าจะหน้าร้อน หน้าฝนหรือหน้าหนาวเชื่อว่าของหวานเป็นสิ่งที่หลาย ๆคนขาดไม่ได้อย่างแน่นอน บทความเกี่ยวกับอาหารนี้จึงจะมาแนะนำ ร้านขนมหวานแบรนด์ดังที่คนรักของหวานไม่ควรพลาด บอกเลยว่าไม่ว่าจะรับประทานหน้าไหนก็อร่อยฟินตลอดทั้งปีอย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วตามบทความนี้ไปดูกันเลย ร้านขนมหวานแบรนด์ดัง รสชาติอร่อยไม่ซ้ำใครน่ารับประทานมาก ร้านขนมหวานแบรนด์ดัง ร้านแรกที่คุณไม่ควรพลาด ก็คือ “PABLO” ร้านขนมหวานแบรนด์ดังที่ Import มาจาก Osaka ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีสาขาไปทั่วจังหวัดกรุงเทพ ร้านขนมหวานร้านนี้โด่งดังในเรื่องของ Cheese Tart ที่มีความเนียนนุ่ม ละมุนลิ้น หอม อร่อยเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนร้านไหน ๆ และนอกจากเมนู Cheese Tart แล้วก็ยังมีเมนูขนมหวานอื่น ๆอีกมากมายที่การันตีเลยว่าอร่อยทุกเมนู รวมไปถึงเมนูเครื่องดื่มที่มีรสชาติเข้มข้นกลมกล่อมลงตัวกำลังดี บอกเลยว่าเป็นร้านขนมหวานแบรนด์ดังที่คนรักของหวานไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด           ร้านขนมหวานแบรนด์ดัง ร้านที่สองที่คุณไม่ควรพลาด ก็คือ “Croissant Taiyaki” อีกหนึ่งร้านขนมหวานแบรนด์ดังที่ Import มาจากประเทศญี่ปุ่นที่บอกเลยว่ามีลูกค้ามาต่อคิวรอซื้อแน่นร้านทุกวันตั้งแต่เปิดร้านใหม่ ๆมาจนถึงในปัจจุบันเลยทีเดียว ด้วยความพิเศษของขนม Taiyaki รูปปลาที่มีไส้ต่าง ๆให้เลือกอย่างหลากหลาย และมีชาติที่ละมุนแบบสุด ๆ นอกจากนี้ยังใช้วัตถุดิบเกรด Premium ในการทำขนม Taiyaki อีกด้วย คนรักของหวานต้องมาลองให้ได้สักครั้งแล้ว ร้านขนมหวานแบรนด์ดัง ร้านที่สามที่คุณไม่ควรพลาด ก็คือ “CODE Café of Dessert Enthusiasts” ร้านขนมหวานแบรนด์ดังที่มีเมนูขนมหวานให้เลือกอย่างหลากหลาย แต่ขอบอกเลยว่าห้ามพลาดเมนู Bingsu และ Honey Toast อย่างเด็ดขาดรับรองว่าอร่อยฟินอย่างแน่นอน นอกจากนี้ภายในร้านยังตกแต่งด้วยโทนสีขาว และโทนสีไม้ดูอบอุ่น เป็นบรรยากาศที่เหมาะแก่การนั่งรับประทานขนมหวานแสนอร่อยเป็นอย่างมากเลยทีเดียว           ร้านขนมหวานแบรนด์ดัง ร้านที่สี่ที่คุณไม่ควรพลาด ก็คือ “Garrett Popcorn Shops – Thailand” ร้าน Popcorn แบรนด์ขนมหวานชื่อดังอีกหนึ่งแบรนด์ที่บอกเลยว่าคนรักของหวานไม่ควรพลาด เพราะ Popcorn ของที่ร้านแห่งนี้นั้น Premium แบบสุด ๆไม่เหมือนร้านไหน ๆอย่างแน่นอน ด้วยรสชาติที่อร่อยลงตัว และใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพในการทำ Popcorn นอกจากนี้ยังบรรจุ Popcorn ใส่กระป๋องที่มี Design สวยงามมีเอกลักษณ์เฉพาะที่เห็นแล้วจะทำให้นึกถึงความอร่อยของ Popcorn ขึ้นมาทันที อีกทั้งยังพกพาสะดวกอีกด้วย จะซื้อรับประทานเองหรือซื้อเป็นของฝากก็ถูกใจทั้งผู้ให้ และผู้รับอย่างแน่นอน เว็บไซต์เราได้แนะนำ ข้อมูลอาหารอร่อย ที่คัดสรรเมนูอร่อยมาเสิร์ฟไว้ให้คุณแล้ว เมนูของหวาน ของสายคาเฟ่ เมนูที่ตกแต่งออกมาน่าทานมาก…

เมนูของหวานวันนี้ หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อกันมาบ้างแล้ว และเมนูนี้เป็นเมนูที่อยากจะให้ทุกคนได้ลองไปทำทานกัน วันนี้เราจะพาไปทำเมนูขนมหวานกัน เชื่อได้ว่าเมนูนี้จะต้องเป็นอีกหนึ่งเมนูขนมหวานที่ถูกใจสาวกคนชอบทาน ของหวาน อย่างแน่นอน เมนูขนมหวานที่เราจะพาไปทำนั่นก็คือ เมนูชีสพายมะยงชิด !!!!  นั่นเอง  แค่ได้ยินชื่อของมะยงชิดก็คงจะคิดถึงรสชาติของความหวานอมเปรี้ยวกันเลยทีเดียว และที่สำคัญเมนูนี้ไม่ต้องใช้เตาอบให้ยุ่งยากด้วย เหมาะสำหรับบ้านที่ไม่มีเตาอบก็สามารถทำเมนูแสนอร่อยเมนูนี้ได้ เราไปเตรียมวัตถุดิบกันเลย ขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบในการทำ เมนูชีสพายมะยงชิด ส่วนที่ 1 ส่วนผสมของตัวฐานแครกเกอร์ 1. บิสกิต 200 กรัม 2. น้ำตาลไอซ์ซิ่ง 2 ช้อนโต๊ะ 3. เนยละลาย 100 กรัม ส่วนที่ 2 ส่วนผสมของครีมชีส 1. ครีมชีส 500 กรัม 2. นมข้นหวาน 200 กรัม (เพิ่มลดได้ตามความชอบ) 3. โยเกิร์ตธรรมชาติ 180 กรัม 4. มะยงชิด 20 ลูก ขั้นตอนการทำ เมนูชีสพายมะยงชิด ขั้นตอนที่ 1 การทำตัวฐานแครกเกอร์ นำบิสกิตใส่ลงไปในถุงซิปล็อก จากนั้นทุบตัวบิสกิตให้พอหยาบ เมื่อทุบบิสกิตละเอียดได้ที่แล้วเทลงภาชนะสำหรับผสม ใส่น้ำตาลไอซ์ซิ่งลงไปแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน นำเนยไปละลายให้เป็นน้ำ ใช้การละลายโดยนำน้ำร้อนมาใส่ในกะละมังหรือหม้อ แล้วนำเนยไปใส่ภาชนะ นำขึ้นตั้งบนน้ำร้อนจากนั้นคนให้ละลาย หรือบ้านใดมีไมโครเวฟสามารถนำเข้าละลายในไมโครเวฟได้เลยนะคะ เมื่อได้เนยละลายแล้วเทใส่ลงไปในถ้วยบิสกิตที่เราผสมกับน้ำตาลไอซ์ซิ่งไว้ แล้วคนให้เข้ากันจนเป็นลักษณะของทรายเปียกๆ ตักบิสกิตใส่ลงไปในพิมพ์ประมาณ ¼ ของพิมพ์ (เพื่อนๆ ใช้พิมพ์แบบไหนก็ได้นะคะตามที่มีเลย) จากนั้นใช้ช้อนกดบิสกิตให้แน่น นำไปแช่เย็นโดยใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้เซ็ตตัว ขั้นตอนที่ 2 การทำครีมชีส ครีมชีสใส่ลงไปในภาชนะผสม แล้วใช้ไม้พายบี้ให้อ่อนตัว (นำไปวางในอุณหภูมิห้องก่อนใช้จะทำให้อ่อนตัวง่ายขึ้น) ใส่โยเกิร์ตลงไปคนให้เข้ากัน แล้วตามด้วยนมข้นหวาน กลิ่นวานิลลา แล้วคนให้เข้ากัน นำครีมชีสใส่ลงไปในถุงบีบ จากนั้นนำไปบีบลงไปฐานบิสกิตที่เราแช่เย็นไว้ (บีบครีมชีสประมาณครึ่งพิมพ์) ใส่มะยงชิดหั่นเต๋าลงไป จากนั้นปิดท้ายด้วยครีมชีส แล้วนำเข้าตู้เย็นอีกครั้งเพื่อให้เซ็ตตัว เมื่อเซ็ตตัวดีแล้วให้นำมะยงชิดมาตกแต่งด้านหน้าให้สวยงาม เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว เราได้รวบรวมวิธีทำ เมนูชีสเค้กไข่ดาว เมนูขนมหวานอร่อยน่าทานไม่ซ้ำใครแน่นอน

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปทำ เมนูชีสเค้กไข่ดาว !!!! เมนูขนมหวานแสนอร่อย ฮั่นแน่… แค่ฟังชื่อเมนูก็แปลกๆแล้วใช่ไหมค่ะ เมนูขนมหวาน แต่ทำไมมีไข่ดาว งานนี้ขอบอกว่าไม่ใช่รสชาติของไข่ดาวแบบที่เราทานกันแน่นอนค่ะ ไม่ใช่แค่เมนูขนมหวาน ธรรมดาๆ แต่เป็น เมนูชีสเค้กไข่ดาว ที่เป็นชีสเค้กรสส้มที่จะสอดไส้เนื้อส้มไว้ด้านใน และแถมยังมีเยลลี่ส้มด้วยนะ แค่ฟังยังน่าทานขนาดนี้แล้ว เราไปเตรียมวัตถุดิบในการทำกันเลยดีกว่า ขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบในการทำ เมนูชีสเค้กไข่ดาว ส่วนที่ 1ส่วนผสมของเยลลี่ส้ม (ใช้สำหรับทำไข่แดง) 1. น้ำส้มเข้มข้น 40 กรัม 2. น้ำผึ้ง 10 กรัม 3. น้ำเปล่า 20 กรัม 4. เจลาติน 1/2 แผ่น ส่วนที่ 2 ส่วนผสมของฐานคุกกี้ป่น 1. คุกกี้บด 80 กรัม (ซื้อแบบสำเร็จหรือนำมาบดเองก็ได้) 2. เนยละลาย 20 กรัม ส่วนที่ 3 ส่วนผสมของชีสเค้กส้ม 1. ครีมชีส 150 กรัม 2. โยเกิร์ต 80 กรัม 3. น้ำส้มเข้มข้น 20 กรัม 4. นมข้นหวาน 30 กรัม 5. เจลาติน 1 แผ่น 6. เนื้อส้มแมนดาริน (ตามชอบ) ส่วนที่ 4 ส่วนผสมของวิปครีม (ใช้ทำไข่ดาวนั่นเองค่ะ) 1. วิปปิ้งครีม 80 กรัม 2. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา ขั้นตอนในการทำชีสเค้กไข่ดาว ขนมหวานแสนอร่อย 1. เท น้ำส้ม เข้มข้นลงไปในหม้อ ตามด้วยน้ำผึ้งหรือบ้านใดไม่มีใช้น้ำเชื่อมแทนได้ น้ำเปล่า แล้วคนให้ส่วนผสมเข้ากัน ขั้นตอนนี้เป็นการทำตัวไข่แดง หากเพื่อนๆ ท่านใดต้องการไข่แดงที่สีเข้มกว่านี้สามารถใส่สีผสมอาหารได้นะ 2. จากนั้นนำขึ้นตั้งไฟ รอจนเดือด ระหว่างที่รอน้ำส้มเดือดให้นำเจลาตินแผ่นไปแช่ในน้ำให้อิ่มตัว จะใช้เวลาประมาณ 5-7 นาที 3.…

ถ้าจะพูดถึงขนมไทย หลายคนก็คงจะนึกถึงทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เป็นหลัก แต่ถ้าหากจะพูดถึงขนมไทยที่มีส่วนประกอบเป็นกะทิเป็นหลักนั้น ก็คงจะไม่มีใครที่จะไม่รู้จักและนึกถึง เมนูขนมหวานแกงบวดฟักทอง กันอย่างแน่นอน   เพราะนอกจากจะเป็น เมนูขนมหวานแกงบวดฟักทอง ที่หอมกลิ่นกะทิที่มีความหอมและหวานแล้ว ยังมีการนำฟักทองมาใช้ในการทำขนมไทยที่แสนอร่อยอีกด้วย วันนี้ขอแนะนำเคล็ดลับดีๆ อย่าง เมนูขนมหวานแกงบวดฟักทอง ที่หอมกลิ่นกะทิ มาฝากทุกคนให้ลองนำไปทำทานกันดู วัตถุดิบที่ใช้ในการทำ เมนูขนมหวานแกงบวดฟักทอง ในส่วนของวัตถุดิบที่จะหามาทำ เมนูขนมหวานแกงบวดฟักทอง นั้นควรจะมีความพิถีพิถันในการเลือกสักนิดนึง โดยควรที่จะเลือกฟักทองที่ไม่แก่จนเกินไปเพราะอาจจะทำให้เละได้ เรามาดูวัตถุดิบในการทำ เมนูขนมหวานแกงบวดฟักทอง ที่หอมกลิ่นกะทิโดยมีวัตถุดิบหลักๆ ดังนี้เลย ฟักทองปอกเปลือกสะอาดทั้งลูก 1 ลูกและนำไปหั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำ หัวกะทิและหางกะทิคั้นอย่างละ 1 ลูก ควรใช้กะทิสดเพื่อความหวานมันของขนม น้ำตาลทรายขาว หรือน้ำตาลทรายแดง 5 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ ควรใช้เกลือป่น น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ ใช้ใบเตยเพื่อความหอม 5 ใบ ขั้นตอนวิธีการทำ เมนูขนมหวานแกงบวดฟักทอง นำฟักทองที่หั่นไว้ไปต้มในน้ำสะอาด เคี่ยวหัวกะทิและหางกะทิกับใบเตยรอฟักทองที่กำลังต้มอยู่ให้ร้อนๆ นำน้ำตาลทราย เกลือ และน้ำตาลปี๊บ ไปเติมในน้ำกะทิที่กำลังเคี่ยว หลังจากนั้นให้นำฟักทองที่ต้มไว้เรียบร้อยแล้วนำมาใส่ในน้ำกะทิและเที่ยวซัก 2 นาที สำหรับ การทำ เมนูขนมหวานแกงบวดฟักทอง ที่หอมกลิ่นกะทิ นั้นเป็นเมนูขนมไทย ที่อยู่ในตระกูลกะทิที่หลายคนมักนิยมทำเพื่อทานหรือนำไปทำบุญกันในวันพระ โดย เมนูขนมหวานแกงบวดฟักทอง นั้นมีรสชาติที่หวานมันของกะทิและมีกลิ่นหอมของใบเตย ถ้าหากคุณอยากที่จะลองชิมหรือลองทำ เมนูขนมหวานแกงบวดฟักทอง ดูด้วยตัวเองนั้นก็อย่าลืมลองไปทำทานกันดูรับรองว่าอร่อยแน่นอน เราได้รวบรวมเมนู เมนูวุ้นคลายร้อน ที่เป็นขนมหวานที่มีสีสันสวยงาม มาให้คุณ

ขนมปังกรอบนมสด, เมนูสำหรับคนเบื่ออาหาร มากันอีกหนึ่งเมนูกับการรังสรรค์ความอร่อยเพื่อคนเบื่ออาหารโดยเฉพาะกับบทความที่รวบรวมเอาการทำอาหารที่ง่ายแสนง่าย ไม่ว่าจะเคยหรือไม่เคยเข้าครัวมาก่อนก็สามารถทำได้ และยังหากคุณกำลังมองหาเมนูใหม่ที่จะเอาใจคนรักหรือเพื่อหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่จำเจ แต่ต้องการความอร่อยและแปลกใหม่ เราจึงมีเมนูสำหรับคนเบื่ออาหารที่สามารถช่วยให้การรับประทานอาหารของคุณดูมีชีวิตชีวามากขึ้นกับเมนูขนมปังกรอบนมสด ส่วนประกอบ ขนมปังกรอบนมสด -ขนมปังแผ่น -เนย -นมสด / นมกล่อง (ตามแต่สะดวก) ส่วนขั้นตอนการทำก็ไม่ยาก เริ่มต้นด้วยการหาซื้อขนมปังแถวสัก 1 แถว เลือกมาตามปริมาณที่ต้องการจะรับประทานเท่านั้น ในขั้นแรกที่เราจะทำก็คือการทำขนมปังกรอบ ให้นำขนมปังกับเนยที่เตรียมเอาไว้มาทาให้ทั่วทั้งแผ่น จะทาเพียงด้านเดียวหรือทั้งสองด้านก็ได้ตามใจท่านเลย เพิ่มรสชาติเล็กน้อยด้วยน้ำตาลเกล็ด โรยลงไปบางๆให้ทั่วแผ่นขนมปัง หลังจากที่เตรียมขนมปังเรียบน้อยแล้วให้ตั้งกระทะทันที เปิดวอร์มกระทะด้วยไฟอ่อนสักพักพอให้ความร้อนกระจ่ายออกไปทั่วทั้งกระทะ หลังจากนั้นให้ทาเนยบางๆทั่วกระทะ แล้วนำขนมปังลงไปปิ้งได้เลย จะปิ้งด้านใดก่อนก็ได้ ให้คอยสังเกตดีๆระวังขนมปังจะไหม้เอา วิธีการสังเกตว่าขนมปังได้ที่หรือไม่คือ ให้คอยหมั่นพลิกกลับไปมาและใช้นิ้วมือหรือตะหลิวจิ้มลงไปว่าแข็งกรอบได้ที่หรือไม่ หากเริ่มกรอบได้ที่แล้วให้นำมาตากไว้ยังพาชนะที่จัดเตรียมสักพัก แล้วขนมปังจะค่อยๆกรอบขึ้นเอง หลังจากนั้นให้นำนมสดที่เตรียมไว้ไปต้ม จะเพิ่มความหวานด้วยน้ำตาลหรือไม่ก็ได้ตามใจชอบ ปริมาณกะให้พอดีกับการรับประทาน เมื่อเดือดได้ที่ให้นำใส่ถ้วยที่เตรียมไว้ หลังจากนั้นนำขนมปังที่พักเอาไว้มาตัดแล้วนำไปใส่ในน้ำนมสด ต่อมาเราจึงจะได้เมนูขนมปังกรอบนมสดที่แสนอร่อย หวานหอมละมุนลิ้น                 *เคล็ดลับ หากใช้เป็นเนยเค็มทาที่ขนมปังจะทำให้รสชาติตัดกับรสชาติของนมสด ทำให้เพิ่มรสชาติความอร่อยไปอีกขั้น และเพิ่มความน่าสนใจด้วยทอปปิ้งหลากหลายที่ให้เลือกรับประทานกันได้เลย ประโยชน์ของขนมปัง เมนูอหาหารที่น่าสนใจ