แน่นอนว่ายุคนี้ไม่ว่าใครหลายคนก็พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งสังเคราะห์ในอาหาร แม้จะซื้อผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปก็มักเลือกแบบที่ผ่านกระบวนการผลิตอย่างพิถีพิถัน ปลอดสารประกอบที่เป็นอันตราย หนึ่งในเครื่องปรุงรสที่นิยม คือ เครื่องปรุงรสไก่ ผงปรุงรสไก่ ทั้งแบบก้อน แบบผง แบบน้ำ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเครื่องปรุงรสสำคัญคู่ครัวซึ่งอยู่เบื้องหลังความอร่อยหลายเมนู เครื่องปรุงรสไก่ ที่สามารถเลือกสูตรได้หลากหลายตามใจชอบ เครื่องปรุงรสไก่ เป็นสิ่งจำเป็นที่ควรมีคู่ครัว และนิยมใช้โดยแพร่หลาย เป็นความเคยชินของชาวไทยไปแล้ว เพราะช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหารหลากหลายประเภท จะใช้เครื่องปรุงรสไก่ กับไก่ หรือกับอาหารประเภทอื่น ปลา ผัก ไข่ ก็ทำได้ ทั้งในยังมีหลายแบรนด์ให้เลือกซื้อหาทั่วไป แต่ว่าทุกวันนี้ก็เกิดความนิยมในเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพไม่น้อย ทำให้พ่อบ้านแม่บ้านหลายครัวเรือนเลือกที่จะทำ เครื่องปรุงรสไก่ ด้วยตนเอง อันที่จริงแล้วไม่ยากเลย ทั้งยังสามารถดัดแปลงสูตรได้หลากหลายตามชอบ ผงปรุงรสไก่สูตรสามเกลอ  ส่วนผสม อกไก่ ½ กิโลกรัม กระเทียมจีน 5 หัว หอมหัวใหญ่ 4 หัว เกลือ 7 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 3 ½ ช้อนชา พริกไทย 3 ช้อนโต๊ะ รากผักชี 7 ราก วิธีทำ ต้มอกไก่แล้วฉีกฝอย จากนั้นนำไปคั่วไฟอ่อน หรืออบจนแห้งสนิท นำเนื้อไก่ที่แห้งแล้ว กระเทียมจีน หอมหัวใหญ่ รากผักชี ปั่นในเครื่องปั่นอาหารจนละเอียด เติมน้ำตาล เกลือ พริกไทย คลุกเคล้าทั้งหมดให้เข้ากัน เก็บรักษาไว้ในโหลแก้ว แช่ตู้เย็นช่องธรรมดา ผงปรุงรสไก่สูตรตะวันตก ส่วนผสม อกไก่ ½ กิโลกรัม เกลือ ½ ช้อนชา พริกไทย ¼ ช้อนชา ผงปาปริก้า ¼ ช้อนชา พริกป่น ¼ ช้อนชา ผงกระเทียม ½ ช้อนชา ผงหัวหอม ½ ช้อนชา ใบโหระพาแห้งป่น 1 ช้อนชา โรสแมรี่แห้งป่น ½ ช้อนชา ผงผักชีฝรั่ง ¼ ช้อนชา วิธีทำ ต้มอกไก่แล้วฉีกฝอย จากนั้นนำไปคั่วไฟอ่อน หรืออบจนแห้งสนิท นำเนื้อไก่ที่แห้งแล้ว ปั่นในเครื่องปั่นอาหารจนละเอียด เติมเครื่องเทศทั้งหมดลงไป…

ถ้าหากพูดถึงเครื่องปรุงพื้นฐานในอาหารไทยก็คงเป็นพริกแกง สำหรับอาหารฝรั่งนั้นก็มีสิ่งที่เป็นพื้นฐานของทุกจานเช่นกัน เราเรียกทั้งหมดนี้ว่า “แม่ซอส” (Mother Sauce) ซอสอาหารฝรั่ง ซึ่งไม่ว่าคุณจะนำไปใช้ประกอบการทำสเต๊ก พาสต้า หรืออื่นๆ ก็สามารถพลิกแพลงได้ตามชอบ เป็นพื้นฐานของเมนูต่างๆ อีกมากมาย ผู้คิดค้น ซอสอาหารฝรั่ง               ผู้คิดค้นแม่ซอสเหล่านี้ คือเชฟชาวฝรั่งเศส Marie Antoine-Carême เป็นคนแรกที่จัดซอสฝรั่งเศสทั้งหมดออกเป็นกลุ่ม ซอสอาหารฝรั่ง พื้นฐาน 4 ชนิด ต่อมาเชฟชาวฝรั่งเศส Auguste Escoffier ได้เพิ่มซอสอีกหนึ่ง จนปัจจุบันมี 5 แบบ ซึ่งเขาได้เขียนสูตรใน Le Guide Culinaire ปี ค.ศ.1903 ขั้นตอนแรกก่อนทำซอสอาหารฝรั่ง ที่ต้องทำความรู้จักกับ “รูซ์” (Roux)               ก่อนที่จะเข้าสู่การทำแม่ซอสทั้ง 5 แบบ ต้องทำส่วนประกอบพื้นฐานของ ซอสอาหารฝรั่ง ก่อน นั่นก็คือ “รูซ์” (Roux) คือการนำแป้งและไขมัน (โดยส่วนใหญ่จะเป็นเนย) มาผัดผสมกันในอัตรา 1:1 เมื่อแป้งเริ่มเป็นสีคล้ายคาราเมลก็ใช้ได้ ซอสอาหารฝรั่ง ซอสแรกที่อยากแนะนำ ก็คือ ซอสขาว (Béchamel) คือการเติมนมลงไปในรูซ์ มีรสชาติของนม ค่อนข้างจืด เป็นพื้นฐานสำหรับซอสครีม มักใช้ในกราแตง เช่น แม็คและชีส ผักอบ และซูเฟล่ชีสคลาสสิก เบชาเมลสามารถปรุงเป็นซอสพาสต้า โดยอาจเติมครีมหรือสมุนไพรลงไป วิธีทำ ผัดแป้งและเนยผสมกันในกระทะ อัตราส่วน 1:1 เพื่อทำรูซ์ จนกระทั่งแป้งสุกหอม เทนมสดอุ่นร้อน 1 ถ้วยตวงลงไปในรูซ์ ใช้ตะกร้อตีให้เข้ากันดีในกระทะ เติมเกลือและพริกไทยตามชอบเพื่อปรุงรส เติมชีสหรือครีม (หรือเติมทั้งสอง) 1 ถ้วยตวงเพื่อทำเป็นซอสครีม เติมสมุนไพรให้กลิ่นตามชอบ เช่น ลูกจันทน์เทศ โรสแมรี หรือชีสพาร์เมซาน เป็นต้น ซอสอาหารฝรั่ง ซอสที่สองที่อยากแนะนำ ก็คือ ซอสมะเขือเทศ แบบฝรั่งนั้นทำโดยวิธีการปกติ คือ ผัดมะเขือเทศและหอมหัวใหญ่กับเนย เติมน้ำเปล่า (ถ้าชอบน้ำสต๊อกไก่ก็สามารถใช้ได้) จากนั้นเติมรูซ์ตามชอบ หากต้องการข้นมากใส่รูซ์มาก ต้องการข้นน้อยใส่รูซ์น้อย แล้วเคี่ยวต่อ 5-10 นาที จนกระทั่งส่วนผสมเริ่มยุ่ย…

ผลไม้ตระกูลส้ม เหล่านี้ให้รสชาติเปรี้ยวอันเป็นเอกลักษณ์ และยังเป็นส่วนเสริมสำคัญที่ทำให้อาหารมีรสชาติหลากหลาย โดยเฉพาะในอาหารไทยที่เน้นความครบเครื่อง  นอกจากนั้น ผลไม้ตระกูลส้ม ที่มีความเป็นกรด ก็ยังสามารถทำให้อาหารสุกได้ระดับหนึ่งด้วย กรณีทำลาบดิบ ก้อยดิบ เป็นต้น ทว่าความสุกจากกรดไม่เหมือนกับความสุกโดยความร้อน ดังนั้นยังควรระวังเรื่องปรสิตและแบคทีเรียในอาหารเสมอ ผลไม้ตระกูลส้ม ที่รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ช่วยเพิ่มความอร่อย ผลไม้ตระกูลส้ม ผลไม้ชนิดแรกที่จะช่วยเพิ่มความอร่อยให้เมนูอาหาร ก็คือ ส้มสีเลือด (Blood Orange) แม้ชื่อจะฟังน่ากลัว แต่นั่นก็เพราะมาจากจุดเด่นของเนื้อส้มซึ่งมีสีแดง มีรสชาติหวานอร่อย นิยมนำมาใช้ในขนมอบ เพราะสีที่สวยนี้จึงนิยมใช้ตกแต่งขนมด้วย โดยการเชื่อม สีแดงเหล่านี้เกิดจากสารแอนโธไซยานิน ซึ่งเป็นเม็ดสีโพลีฟีนอลแบบเดียวกับที่ให้สีในบีทรูทนั่นเอง ผลไม้ตระกูลส้ม ผลไม้ชนิดที่สองที่จะช่วยเพิ่มความอร่อยให้เมนูอาหาร ก็คือ ส้มจี๊ด (Tangelo) เป็นผลไม้ตระกูลส้มลูกผสมระหว่างส้มโอและส้มเขียวหวาน มีขนาดลูกเล็ก รสเปรี้ยวเป็นเอกลักษณ์ เมื่อรับประทานจะได้สัมผัสกับความหวานทันทีตามด้วยความเปรี้ยว ส้มจี๊ดมักไม่มีเมล็ด เปลือกของมันลอกออกได้ง่าย ทำให้สามารถทดแทนส้มเขียวหวานได้อย่างดีเยี่ยม ใช้ทำอาหารหวานหรือคาวก็ได้ ผลไม้ตระกูลส้ม ผลไม้ชนิดที่สามที่จะช่วยเพิ่มความอร่อยให้เมนูอาหาร ก็คือ มะปี๊ด (Calamansi) มีความคล้ายส้มจี๊ด บางทีก็เรียกชื่อปะปนกัน อันที่จริงแล้วมีความต่างอยู่ที่เปลือกนอก โดยส้มจี๊ดนั้นมีเปลือกสีส้ม ลักษณะผลด้านบนมีจุกขั้ว ส่วนมะปี๊ดลูกกลมเล็กคล้ายมะนาว แต่มีผิวสีส้มปนเขียว และมีเนื้อด้านในเป็นสีส้มเหมือนกับส้มทั่วไป มะปี๊ดนิยมใช้ในฟิลิปปินส์และมาเลเซีย ให้รสชาติที่หวานกว่ามะนาว ผลไม้ตระกูลส้ม ผลไม้ชนิดที่สี่ที่จะช่วยเพิ่มความอร่อยให้เมนูอาหาร ก็คือ มะนาวเมเยอร์ (Mayer Lemon) มีความแตกต่างจากเหลืองที่พบบ่อยในอาหารตะวันตก มีขนาดเล็กและผิวเรียบอีกทั้งยังมีเนื้อฉ่ำกว่าและให้รสชาติเปรี้ยวน้อยกว่า ดังนั้นจึงสามารถปรุงได้เฉพาะอาหารรสชาติอ่อนๆ เช่น สลัด โยเกิร์ต ขนม หรือตกแต่งหน้าเค้ก เป็นต้น รูปทรงของผลและลำต้นของมะนาวเมเยอร์นั้นมีความสวยงาม บางครั้งก็ใช้ปลูกเพื่อประดับบ้านด้วย ผลไม้ตระกูลส้ม ผลไม้ชนิดที่ห้าที่จะช่วยเพิ่มความอร่อยให้เมนูอาหาร ก็คือ มะนาวแป้น มีขนาดเล็กกว่ามะนาวที่เราเห็นทั่วไปในท้องตลาด แต่มีรสชาติที่เปรี้ยวแหลมกว่า และมีกลิ่นขมกว่า  นอกจากนี้ยังมีเมล็ดมาก แต่นิยมใช้ในอาหารไทยมากๆ เพราะผิวบาง ให้น้ำเยอะ รสชาติชัดเจน ส่วนใหญ่มะนาวที่ใช้ในการตำส้มตำก็มักเป็นมะนาวแป้นนี่เอง เมื่อเราได้ทราบตัวอย่างของ ผลไม้ตระกูลส้ม ที่มีหลากหลายนี้แล้วก็จะพบว่าแต่ละชนิดนั้นสามารถนำไปใช้งานได้ต่างกัน อีกทั้งยังให้ความอร่อย รสชาติที่แตกต่างกัน บางชนิดก็ถูกใช้ในท้องถิ่นของประเทศต่างๆ ดังนั้นควรเลือก ผลไม้ตระกูลส้ม ให้เหมาะสม หรืออาจจะทดลองสูตรอาหารใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายและความสนุกสนานให้กับการทำอาหารของคุณดูก็ได้ เว็บไซต์เราได้แนะนำ ข้อมูลการทำอาหาร ที่คัดสรรเมนูอร่อยมาเสิร์ฟไว้ให้คุณแล้ว ขนมปังแซนวิช มื้อง่ายยามเช้าอร่อยอิ่มท้อง อาหารของคนรักสุขภาพ กินแล้วดี มีประโยชน์สารพัด วิธีปรับสูตรอาหาร สำหรับคนลดน้ำหนัก ให้ผอมได้อย่างยั่งยืน เคล็ดลับขนมปัง แช่ตู้เย็นไว้…

ผลไม้ตระกูลส้ม (Citrus) เป็นกลุ่มผลไม้ที่ให้รสเปรี้ยวและมีอยู่หลากหลาย ซึ่งรสชาติเหล่านี้เกิดจากคุณสมบัติความเป็นกรดในตัว มีผลต่ออาหารและมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ผลไม้ตระกูลส้ม นอกจากรสชาติเปรี้ยวแล้ว บางชนิดอาจมีรสชาติหวานและขมปะปนมา สามารถเลือกใช้ในการประกอบอาหารต่างชนิดกันไป ผลไม้ตระกูลส้ม ที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ผลไม้ตระกูลส้ม ผลไม้ชนิดแรกที่อยากแนะนำ ก็คือ เกรปฟรุต โดยเกรปฟรุตสุกให้รสชาติหวานเปรี้ยวและขมในคราวเดียวกัน ทั้งยังสามารถรับประทานสดหรือนำไปประกอบอาหาร เช่น สลัด การเลือกผลไม้ชนิดนี้ ควรเลือกที่มีลักษณะกลม ผิวเนียน เก็บปลายก้านทื่อเล็กน้อย เมื่อคุณหยิบขึ้นมา ควรจะรู้สึกหนักซึ่งบ่งบอกถึงความฉ่ำ ผลไม้ตระกูลส้ม ผลไม้ชนิดที่สองที่อยากแนะนำ ก็คือ หัตถ์พระพุทธเจ้า (Buddha’s Hand) หรือมะนาวมือ เป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว รูปร่างคล้ายอุ้งมือที่มีนิ้วเรียวยาว เมื่อสุกจะกลายเป็นสีเหลือง ส่วนที่คล้ายนิ้วจะคลี่ออก โดยรสชาติเปรี้ยวของหัตถ์พระพุทธเจ้าแตกต่างจากรสเปรี้ยวของผลไม้ตระกูลส้มชนิดอื่นๆ มีความอร่อยในตัว เนื้อละเอียด สามารถใช้แทนมะนาว หรือส้มได้ มีกลิ่นหอมที่นุ่มกว่า ผลไม้ตระกูลส้ม ผลไม้ชนิดที่สามที่อยากแนะนำ ก็คือ ส้มคัมควอต (Kumquat) หรือส้มกิมจ๊อ มีรสชาติออกไปทางด้านหวาน รับประทานได้ทั้งเปลือกและเนื้อ แต่เนื้อน้อย จึงนิยมนำไปใช้ในการทำขนม ส้มคัมควอตมีมากในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม นิยมนำมาเชื่อมก่อนนำไปทำขนมมากกว่ารับประทานสด ผลไม้ตระกูลส้ม ผลไม้ชนิดที่สี่ที่อยากแนะนำ ก็คือ เลมอน ลูกสีเหลืองเหลือง มีรูปร่างรีคล้ายกับลูกรักบี้ มีรสชาติที่เปรี้ยวอย่างมาก จึงไม่เหมาะที่จะรับประทานเดี่ยวๆ เลย มักใช้ร่วมกับอาหารประเภทต่างๆ โดยเฉพาะในเมนูอาหารตะวันตก และยังสามารถใช้ทำเครื่องดื่มค็อกเทลได้ด้วย อีกทั้งยังสามารถใช้ได้ทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นผิวเลมอน เนื้อ หรือน้ำ เป็นต้น ผลไม้ตระกูลส้ม ผลไม้ชนิดที่ห้าที่อยากแนะนำ ก็คือ มะนาว เป็นผลไม้รสเปรี้ยวซึ่งใช้ประกอบอาหารหลากหลายในเอเชียอาคเนย์ มีรสชาติเปรี้ยวแหลมโดดเด่น ปนกับความขม กลิ่นชัดเจน เพราะรสและกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ นอกจากจะสามารถใช้ในการทำอาหารคาวหวานแล้ว มะนาวยังสามารถใช้ทำน้ำจิ้มแยกออกมาต่างหากได้ด้วย มีความเป็นกรดมาก และสามารถทำให้จานอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบมีความสุกจากกรดได้ด้วย ผลไม้ตระกูลส้ม ผลไม้ชนิดที่หกที่อยากแนะนำ ก็คือ ส้มโอ ด้วยขนาดที่ใหญ่โตของผลส้มโอ เปลือกหนา เนื้อฉ่ำมีปริมาณมาก และรสชาติที่หวานอมเปรี้ยวกลมกล่อม ทำให้ส้มโอเป็นผลไม้ตระกูลส้มที่นิยมรับประทานเดี่ยว เช่นเดียวกับเกรฟฟรุ้ต แต่ถึงอย่างนั้นส้มโอก็ยังสามารถใช้ทำสลัด ขนม และอาหารคาวบางชนิดเช่นยำส้มโอได้ เนื้อส้มโอมีตั้งแต่ขาวอมเหลืองไปจนถึงแดง มีกลิ่นหอมเมื่อสุก ผลไม้ตระกูลส้ม ผลไม้ชนิดที่เจ็ดที่อยากแนะนำ ก็คือ ส้มวาเลนเซีย (Valencia) คือส้มเปลือกสีส้มที่เรามักจะเห็นในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ขึ้นชื่อเรื่องความหวานฉ่ำ รับประทานสดได้ มีผิวที่บาง จึงนิยมนำไปคั้นเพื่อทำน้ำส้ม ใช้ในเครื่องดื่มค็อกเทล…

เชื่อว่า เมนูข้าวห่อไข่ จะต้องเป็นเมนูโปรดในใจใครหลาย ๆคนอย่างแน่นอน ใครที่ชอบรับประทานเมนูข้าวห่อไข่ต้องห้ามพลาดบทความนี้เลย เพราะบทความเกี่ยวกับอาหารนี้จะพาไปอร่อยฟินกับข้าวห่อไข่ร้านเด็ดสไตล์ญี่ปุ่นในกรุงเทพที่รับรองว่าจะทำให้คุณฟินจนวางชามไม่ลงกันเลยทีเดียว ถ้าพร้อมแล้วตามบทความนี้ไปดูกันเลย เมนูข้าวห่อไข่ ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ เมนูข้าวห่อไข่ ร้านเด็ดสไตล์ญี่ปุ่นในกรุงเทพร้านแรก คือ “OMU Bangkok” ร้านข้าวห่อไข่ย่านสีลมร้านเด็ดที่คนในย่านสีลมรู้จักกันเป็นอย่างดี เรียกว่าเป็นร้านอาหารชื่อดังร้านหนึ่งเลยก็ว่าได้ ด้วยรสชาติของข้าวห่อไข่ที่ไม่ธรรมดา เพราะมีการผสมผสานเครื่องเคียงต่าง ๆเข้าไปอย่างหลากหลาย จึงทำให้มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และมีเมนูข้าวห่อไข่ที่หลากหลายให้เลือกมากมายตอบโจทย์ลูกค้าแบบสุด ๆอีกด้วย           เมนูข้าวห่อไข่ ร้านเด็ดสไตล์ญี่ปุ่นในกรุงเทพร้านที่สอง คือ “Pomu no ki JAPAN” ข้าวห่อไข่ร้านเด็ดสไตล์ญี่ปุ่นสูตรต้นตำหรับจาก Osaka ประเทศญี่ปุ่น รับรองว่าคุณจะฟินเหมือนได้ไปรับประทานข้าวห่อไข่ที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างไรอย่างนั้นเลยหากได้ลิ้มลองรสชาติของข้าวห่อไข่ที่ร้านแห่งนี้สักครั้ง นอกจากนี้ยังมีการนำข้าวห่อไข่มา Mix กับเมนูต่าง ๆเพื่อเพิ่มรสชาติของอาหารให้หลากหลายมากขึ้นอีกด้วย แต่รับรองว่าอร่อยทุกเมนูอย่างแน่นอน หากใครสนใจก็สามารถตามไปลิ้มลองรสชาติความอร่อยแบบนี้ได้ที่ห้างสรรพสินค้า The EmQuartier ได้เลย           เมนูข้าวห่อไข่ ร้านเด็ดสไตล์ญี่ปุ่นในกรุงเทพร้านที่สาม คือ “Home Restaurant” ข้าวห่อไข่ร้านเด็ดสไตล์ญี่ปุ่นที่ผสมผสานเมนูอาหารไทยเข้าไปด้วยอย่างเมนูแกงเขียวหวานไก่ ผัดไทย ผัดกะเพรา ผัดผงกะหรี่ ต้มยำ เป็นต้น จึงทำให้มีความแปลกใหม่เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีจุดเด่น และความเป็นเอกลักษณ์อยู่ที่การทำไข่เจียวที่ใช้ในการห่อข้าวนั้นได้บางเฉียบแบบสุด ๆ ซึ่งรับรองว่าไม่เหมือนร้านไหน ๆอย่างแน่นอน ในส่วนของรสชาตินั้นบอกคำเดียวว่าต้องลองตามไปลิ้มลองเองเท่านั้น           เมนูข้าวห่อไข่ ร้านเด็ดสไตล์ญี่ปุ่นในกรุงเทพร้านที่สี่ คือ “On the table Tokyo café” ร้านอาหารกึ่ง Café สไตล์ญี่ปุ่นที่มีเมนูอาหาร และขนมสไตล์ญี่ปุ่นให้เลือกอย่างมากมาย แต่ขอบอกเลยว่าเมนูข้าวห่อไข่สไตล์ญี่ปุ่นของที่ร้านแห่งนี้นั้นเด็ดสุด ๆ มีรสชาติที่ลงตัว ถูกปากเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีราคาที่ไม่แพงมากนักอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งร้านข้าวห่อไข่สไตล์ญี่ปุ่นในกรุงเทพที่บอกเลยว่าต้องไปลองให้ได้สักครั้ง เว็บไซต์เราได้แนะนำ ข้อมูลการทำอาหาร ที่คัดสรรเมนูอร่อยมาเสิร์ฟไว้ให้คุณแล้ว ตะลุยกิน ร้านอุด้ง สไตล์ญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาด ร้านอาหารเมืองทองธานี ย่านที่มีแต่ของอร่อยที่ต้องไปลอง ร้านมอเกน บางปู ร้านอาหารทะเลที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ร้านสุกี้ตี๋น้อย สาขา The Sense ปิ่นเกล้า ราคาเบาๆสบายกระเป๋า

“ต็อกโบกี” อาหารเกาหลียอดนิยมที่เรามักจะเห็นกันบ่อย ๆหากใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ Series เกาหลี ต็อกโบกีนั้นทำมาจากแป้งข้าวเจ้า ราดด้วยซอสสูตรพิเศษโคชูจัง ซึ่งจะมีรสชาติออกเผ็ดปานกลางไปจนถึงเผ็ดขนไฟลุก หากใครอยากจะรับประทานเมนูอาหารเกาหลีต็อกโบกีบอกเลยว่าไม่ต้องไปถึงที่ประเทศเกาหลีแล้ว เพราะในปัจจุบันในประเทศไทยนั้นมีร้านอาหารเกาหลีมากมายที่มีเมนูต็อกโบกี อีกทั้งยังมีรสชาติที่ใกล้เคียงกับรสชาติแบบต้นตำหรับอีกด้วย ถ้าพร้อมแล้วตามบทความเกี่ยวกับอาหารนี้ไปดู ร้านต็อกโบกี อาหารเกาหลีสุดเด็ดเผ็ดจนไฟลุกกันเลย ร้านต็อกโบกี รสชาติของซอสโคชูจังที่ใกล้เคียงต้นตำหรับ ร้านต็อกโบกี อาหารเกาหลีสุดเด็ดเผ็ดจนไฟลุกร้านแรกที่บทความนี้จะมาแนะนำก็คือ “Salang” ร้านปิ้งย่างอาหารเกาหลีที่ถนนพญาไท ซึ่งต้องบอกเลยว่าเมนูต็อกโบกีของที่ร้านแห่งนี้นั้นเด็ดสุด ๆ มีรสชาติที่ใกล้เคียงกับต้นตำหรับเป็นอย่างมาก ด้วยรสชาติของซอสโคชูจังที่บอกเลยว่าเผ็ดจนไฟลุกอย่างแน่นอน อีกทั้งยังสามารถรับประทานได้แบบไม่อั้นอีกด้วย เพราะเป็นร้าน Buffet ปิ้งย่างอาหารเกาหลีนั่นเอง โดยสามารถที่จะรับประทานได้ในระยะเวลาที่มากถึง 1 ชั่วโมงครึ่งในราคาเพียง 300 บาทต่อคนเท่านั้นอีกด้วย เรียกได้ว่าคุ้มค่าคุ้มราคาสุด ๆเลยทีเดียว           ร้านต็อกโบกี อาหารเกาหลีสุดเด็ดเผ็ดจนไฟลุกร้านที่สองที่บทความนี้จะมาแนะนำก็คือ “MASIZZIM” อีกหนึ่งร้านอาหารเกาหลีที่มีเมนูต็อกโบกีสุดเด็ด โดยสามารถที่จะเลือกรับประทานได้ทั้งแบบเป็นอาหารจานเดียว และแบบ Buffet ซึ่งนอกจากเมนูต็อกโบกีแล้วก็ยังมีเมนูอาหารเกาหลีอื่น ๆอีกมากมายที่อร่อยเด็ดไม่แพ้กัน แต่ขอบอกเลยว่าหากใครมาที่ร้านแห่งนี้แล้วไม่ได้ลองรับประทานเมนูต็อกโบกีอาหารเกาหลีสุดเด็ดนั้นถือว่าพลาดเป็นอย่างมากเลยทีเดียว           ร้านต็อกโบกี อาหารเกาหลีสุดเด็ดเผ็ดจนไฟลุกร้านที่สามที่บทความนี้จะมาแนะนำก็คือ “TIGER Topoki” ร้านต็อกโบกีอาหารเกาหลีสุดเด็ดชื่อดังที่ Siam Square ที่ร้านต็อกโบกีแห่งนี้เป็นต็อกโบกีสูตรต้นตำหรับแท้ ๆ จึงทำให้มีรสชาติใกล้เคียงกับที่ประเทศเกาหลีเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีการนำต็อกโบกีมาผสมผสานกับ Cheese ยิ่งเพิ่มความอร่อยได้อย่างเท่าตัวเลยทีเดียว           ร้านต็อกโบกี อาหารเกาหลีสุดเด็ดเผ็ดจนไฟลุกร้านที่สี่ที่บทความนี้จะมาแนะนำก็คือ “Factory Buffet” ร้าน Buffet ปิ้งย่างสไตล์เกาหลีที่มีเมนูอาหารเกาหลีมากกว่า 60 เมนูเลยทีเดียว โดยเฉพาะเมนูต็อกโบกีที่ต้องบอกเลยว่าอร่อยเด็ดไม่แพ้ร้านไหน ๆอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีรสชาติที่จัดจ้านเผ็ดจนไฟลุกกันเลยทีเดียว หากใครอยากมาลิ้มลองรสชาติของต็อกโบกี และ Buffet อาหารเกาหลีเด็ด ๆแบบนี้ก็สามารถตามพิกัดมาได้ที่ซอยบางนาตราด 36 รับรองเลยว่าคุณจะต้องติดใจจนอยากกลับมารับประทานอีกครั้งอย่างแน่นอน เว็บไซต์เราได้แนะนำ ข้อมูลอาหารอร่อย ที่คัดสรรเมนูอร่อยมาเสิร์ฟไว้ให้คุณแล้ว คุณจะไม่พลาด ร้านอาหาร ที่เราได้นำมาไว้ให้คุณได้ไปลิ้มลองรสชาติความอร่อย

ไม่ว่าจะหน้าร้อน หน้าฝนหรือหน้าหนาวเชื่อว่าของหวานเป็นสิ่งที่หลาย ๆคนขาดไม่ได้อย่างแน่นอน บทความเกี่ยวกับอาหารนี้จึงจะมาแนะนำ ร้านขนมหวานแบรนด์ดังที่คนรักของหวานไม่ควรพลาด บอกเลยว่าไม่ว่าจะรับประทานหน้าไหนก็อร่อยฟินตลอดทั้งปีอย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วตามบทความนี้ไปดูกันเลย ร้านขนมหวานแบรนด์ดัง รสชาติอร่อยไม่ซ้ำใครน่ารับประทานมาก ร้านขนมหวานแบรนด์ดัง ร้านแรกที่คุณไม่ควรพลาด ก็คือ “PABLO” ร้านขนมหวานแบรนด์ดังที่ Import มาจาก Osaka ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีสาขาไปทั่วจังหวัดกรุงเทพ ร้านขนมหวานร้านนี้โด่งดังในเรื่องของ Cheese Tart ที่มีความเนียนนุ่ม ละมุนลิ้น หอม อร่อยเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนร้านไหน ๆ และนอกจากเมนู Cheese Tart แล้วก็ยังมีเมนูขนมหวานอื่น ๆอีกมากมายที่การันตีเลยว่าอร่อยทุกเมนู รวมไปถึงเมนูเครื่องดื่มที่มีรสชาติเข้มข้นกลมกล่อมลงตัวกำลังดี บอกเลยว่าเป็นร้านขนมหวานแบรนด์ดังที่คนรักของหวานไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด           ร้านขนมหวานแบรนด์ดัง ร้านที่สองที่คุณไม่ควรพลาด ก็คือ “Croissant Taiyaki” อีกหนึ่งร้านขนมหวานแบรนด์ดังที่ Import มาจากประเทศญี่ปุ่นที่บอกเลยว่ามีลูกค้ามาต่อคิวรอซื้อแน่นร้านทุกวันตั้งแต่เปิดร้านใหม่ ๆมาจนถึงในปัจจุบันเลยทีเดียว ด้วยความพิเศษของขนม Taiyaki รูปปลาที่มีไส้ต่าง ๆให้เลือกอย่างหลากหลาย และมีชาติที่ละมุนแบบสุด ๆ นอกจากนี้ยังใช้วัตถุดิบเกรด Premium ในการทำขนม Taiyaki อีกด้วย คนรักของหวานต้องมาลองให้ได้สักครั้งแล้ว ร้านขนมหวานแบรนด์ดัง ร้านที่สามที่คุณไม่ควรพลาด ก็คือ “CODE Café of Dessert Enthusiasts” ร้านขนมหวานแบรนด์ดังที่มีเมนูขนมหวานให้เลือกอย่างหลากหลาย แต่ขอบอกเลยว่าห้ามพลาดเมนู Bingsu และ Honey Toast อย่างเด็ดขาดรับรองว่าอร่อยฟินอย่างแน่นอน นอกจากนี้ภายในร้านยังตกแต่งด้วยโทนสีขาว และโทนสีไม้ดูอบอุ่น เป็นบรรยากาศที่เหมาะแก่การนั่งรับประทานขนมหวานแสนอร่อยเป็นอย่างมากเลยทีเดียว           ร้านขนมหวานแบรนด์ดัง ร้านที่สี่ที่คุณไม่ควรพลาด ก็คือ “Garrett Popcorn Shops – Thailand” ร้าน Popcorn แบรนด์ขนมหวานชื่อดังอีกหนึ่งแบรนด์ที่บอกเลยว่าคนรักของหวานไม่ควรพลาด เพราะ Popcorn ของที่ร้านแห่งนี้นั้น Premium แบบสุด ๆไม่เหมือนร้านไหน ๆอย่างแน่นอน ด้วยรสชาติที่อร่อยลงตัว และใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพในการทำ Popcorn นอกจากนี้ยังบรรจุ Popcorn ใส่กระป๋องที่มี Design สวยงามมีเอกลักษณ์เฉพาะที่เห็นแล้วจะทำให้นึกถึงความอร่อยของ Popcorn ขึ้นมาทันที อีกทั้งยังพกพาสะดวกอีกด้วย จะซื้อรับประทานเองหรือซื้อเป็นของฝากก็ถูกใจทั้งผู้ให้ และผู้รับอย่างแน่นอน เว็บไซต์เราได้แนะนำ ข้อมูลอาหารอร่อย ที่คัดสรรเมนูอร่อยมาเสิร์ฟไว้ให้คุณแล้ว เมนูของหวาน ของสายคาเฟ่ เมนูที่ตกแต่งออกมาน่าทานมาก…

ใครที่ชอบรับประทานขนมญี่ปุ่นต้องห้ามพลาดบทความนี้อย่างเด็ดขาด เพราะบทความเกี่ยวกับอาหารนี้จะมาแนะนำ ร้านขนมญี่ปุ่น สุดฟินที่ต้องไปลองสักครั้ง การันตีเลยว่าอร่อยฟินทุกร้านอย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วตามบทความนี้ไปตะลุยกินกันเลย ร้านขนมญี่ปุ่น เมนูขนมญี่ปุ่นที่มำมาจากแป้งสูตรพิเศษ ร้านขนมญี่ปุ่น ร้านขนมร้านแรกที่อยากแนะนำให้ไปลองทาน ก็คือ “Dadaya” ร้านขนมญี่ปุ่นที่มีเมนูขนมญี่ปุ่นที่น่าสนใจอย่าง “โอบันยากิ” ซึ่งเป็นเมนูขนมญี่ปุ่นที่ค่อนข้างจะหารับประทานได้ยากในประเทศไทย เป็นขนมญี่ปุ่นที่ทำจากแป้งสูตรพิเศษ และใส่ไส้ต่าง ๆ โดยขนมญี่ปุ่นของที่ร้านแห่งนี้จะมีเอกลักษณ์พิเศษด้วยการปั๊มชื่อของร้านลงบนขนมโอบันยากิทุกอัน ทำให้มีความเป็นเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก บอกเลยว่าเป็นร้านขนมญี่ปุ่นสุดฟินที่ต้องไปลองสักครั้ง           ร้านขนมญี่ปุ่น ร้านขนมร้านที่สองที่อยากแนะนำให้ไปลองทาน ก็คือ “Sweet Duchess Daifuku” อีกหนึ่งร้านขนมญี่ปุ่นที่ต้องไปลองสักครั้ง รับรองเลยว่าจะต้องฟินตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ลองลิ้มรสชาติของขนมญี่ปุ่นอย่าง “Daifuku” อย่างแน่นอน ด้วยรสชาติของแป้งที่มีความนุ่ม และหนึบหนับกำลังดี อีกทั้งยังมีหน้าตาที่น่ารับประทานเป็นอย่างมากด้วยความพิถีพิถัน และใส่ใจในการตกแต่งหน้าตาของขนมญี่ปุ่นของที่ร้านแห่งนี้           ร้านขนมญี่ปุ่น ร้านขนมร้านที่สามที่อยากแนะนำให้ไปลองทาน ก็คือ “Uncle Tetsu Thailand” ร้านขนมญี่ปุ่นร้านนี้ค่อนข้างจะเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในประเทศญี่ปุ่นรวมถึงในประเทศไทยขณะนี้อีกด้วย เป็นขนม Cheese Cake สไตล์ญี่ปุ่นที่มีสูตรเฉพาะ ทำให้ Cheese Cake มีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม และหวานกำลังดีไม่เหมือนร้านไหน ๆ อีกทั้งยังมี Logo รูปคุณลุง Chef ที่เป็นเอกลักษณ์ของทางร้านบนหน้าของ Cheese Cake อีกด้วย รับรองเลยว่าคุณจะฟินอย่างแน่นอนหากได้ลองชิมรสชาติของ Cheese Cake ที่ร้านขนมญี่ปุ่นแห่งนี้สักครั้ง           ร้านขนมญี่ปุ่น ร้านขนมร้านที่สี่ที่อยากแนะนำให้ไปลองทาน ก็คือ “Ho-mu” ร้านขนมญี่ปุ่นสุดเก๋ในย่านเจริญกรุงที่รวบรวมขนมญี่ปุ่นนานาชนิดไว้อย่างมากมาย ซึ่งมีรสชาติที่ใกล้เคียงกับขนมญี่ปุ่นแบบต้นตำหรับเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังทำขนมญี่ปุ่นแบบสดใหม่วันต่อวันอีกด้วย รับรองในเรื่องของรสชาติเลยว่าไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งร้านสไตล์ญี่ปุ่นดูน่ารักเป็นอย่างมาก ทั้งยังมีมุมให้ถ่ายรูปมากมายอีกด้วย ในส่วนของราคานั้นก็มีราคาที่กำลังพอดีเหมาะกับรสชาติความอร่อยแบบต้นตำหรับแบบนี้ บอกได้คำเดียวว่าต้องไปลองสักครั้งรับรองว่าจะติดใจในรสชาติความอร่อยของขนมญี่ปุ่นอย่างแน่นอน เว็บไซต์เราได้แนะนำ ข้อมูลการทำอาหาร ที่คัดสรรเมนูอร่อยมาเสิร์ฟไว้ให้คุณแล้ว เว็บไซต์ได้รวบรวมข้อมูลอาหารรสชาติอร่อย แนะนำร้านอาหาร ที่คุณไม่ควรพลาด

ใครที่ชอบรับประทานก๋วยเตี๋ยวเรือบอกเลยว่าไม่ควรพลาดบทความนี้ เพราะบทความเกี่ยวกับอาหารนี้จะมาแนะนำ ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ อร่อยแซ่บจนไฟลุกที่ไม่ควรพลาด บอกเลยว่าแต่ละร้านเด็ด ๆทั้งนั้น ทั้งยังการันตีความอร่อย ขอแนะนำ 4 ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ที่นำมาให้คุณได้ไปลองรสชาติรับรองว่ารสชาติจัดจ้านถึงใจอย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วตามบทความนี้ไปอร่อยแซ่บจนไฟลุกกันเลย ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ รสชาติอร่อยจัดจ้านติดใจแน่นอน ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ร้านแรกที่อยากแนะนำ ก็คือ “ก๋วยเตี๋ยวเรือสามแซ่บ” แค่ชื่อร้านก็เดาได้เลยว่าจะต้องอร่อยแซ่บจนไฟลุกอย่างแน่นอน ความพิเศษของก๋วยเตี๋ยวเรือที่ร้านแห่งนี้อยู่ที่น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเรือสูตรแท้ดั้งเดิมของอยุธยา ซึ่งจะมีความเข้มข้น และมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหน ๆ นอกจากนี้ยังใส่พริกที่ทางร้านคั่วเองสดใหม่ทุกวัน จึงทำให้มีกลิ่นหอม ทั้งยังอร่อยแซ่บจนไฟลุกไม่แพ้ชื่อร้านเลยทีเดียว หากใครสนใจก็สามารถตามพิกัดไปได้ที่ซอยลาซาล 59           ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ร้านที่สองที่อยากแนะนำ ก็คือ “ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา (เจ้าเก่า)” ร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออร่อยแซ่บจนไฟลุกที่ไม่ควรพลาดร้านนี้ตั้งอยู่ที่ถนนสรงประภา เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือสูตรอยุธยาแบบดั้งเดิมที่เปิดขายมานานกว่า 20 ปี จึงมั่นใจในรสชาติได้เลยว่าอร่อยอย่างแน่นอน ยิ่งในช่วงเย็น ๆแล้วมักจะเห็นมีเด็กนักเรียนพากันเข้ามารับประทานกันแน่นร้าน ด้วยรสชาติความอร่อยของก๋วยเตี๋ยวเรือ และตั้งอยู่ใกล้กับโรงเรียนสีกัน วัฒนานันท์อุปถัมภ์นั่นเอง           ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ร้านที่สามที่อยากแนะนำ ก็คือ “โก๋ตั้ง สูตรเด็ดใบไม้” ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งร้านก๋วยเตี๋ยวเรือที่การันตีความอร่อยแซ่บจนไฟลุก และจุดเด่นของที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือแห่งนี้คือ จะมีใบโหระพาเสิร์ฟมาพร้อมกับก๋วยเตี๋ยวด้วยทุกครั้ง จึงเป็นที่มาของชื่อร้านก๋วยเตี๋ยวเรือสูตรเด็ดใบไม้ นอกจากก๋วยเตี๋ยวเรือสุดแซ่บแล้วก็ยังมีของหวานไว้ตบท้ายอย่างข้าวต้มมัด และขนมถ้วยอีกด้วย เรียกได้ว่าครบรสเลยทีเดียว           ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ร้านที่สี่ที่อยากแนะนำ ก็คือ “ก๋วยเตี๋ยวลุงหนั่น (เจ้าเก่า) รัชดา 17” ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือขึ้นชื่อในย่านรัชดาที่ไม่ว่าใครที่ได้มารับประทานก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยแซ่บจนไฟลุก ด้วยน้ำซุปที่มีรสชาติเข้มข้นกลมกล่อม แทบไม่ต้องปรุงกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีให้เลือกทั้งหมูเปื่อย และเนื้อเปื่อยอีกด้วย และหากใครจะมารับประทานก๋วยเตี๋ยวเรือสุดแซ่บที่ร้านแห่งนี้บอกเลยว่าต้องเผื่อเวลากันสักหน่อย เพราะมีผู้คนมารอต่อคิวเพื่อลิ้มรสชาติของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือแห่งนี้แน่นร้านแทบทุกวันเลยทีเดียว เว็บไซต์เราได้แนะนำ อาหารเด็ด ที่คัดสรรเมนูอร่อยมาเสิร์ฟไว้ให้คุณแล้ว ร้านรุ่งเรือง ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำรสชาติอร่อยเด็ด ร้านยำรสเด็ด ราคาสบายกระเป๋าทุกเมนู 20 บาทเท่านั้น ร้านอาหารเมืองทองธานี ย่านที่มีแต่ของอร่อยที่ต้องไปลอง ร้านก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ รสเด็ด รสชาติอร่อยจนต้องสั่งเพิ่มอีกชาม