บัวลอย ขนมหวานแบบไทย ๆที่มีสีสันสดใสน่ารับประทาน เป็นขนมหวานชนิดหนึ่งที่มีความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียว ใครที่ชอบรับประทานบัวลอยไม่ควรที่จะพลาดบทความนี้อย่างเด็ดขาด บทความเกี่ยวกับอาหารนี้ได้รวบรวม ร้านบัวลอย รสเด็ดเจ้าดังที่อร่อยจนต้องไปกินซ้ำมาไว้ให้แล้ว รับรองเลยว่าอร่อยเด็ดทุกร้านอย่างแน่นอน ร้านบัวลอย ที่มีงสูตรเก่าแก่มานานกว่า 20 ปี ร้านบัวลอย รสเด็ดเจ้าดังที่อร่อยที่จะมาแนะนำร้านแรก คือ “บัวลอยไข่เค็ม-ไข่หวาน ท่าน้ำคลองสาน” ไม่ว่าใครที่เคยมาแล้วจะต้องได้ไปกลับไปกินซ้ำแน่นอน เพราะร้านนี้ในย่านฝั่งธนไม่มีใครไม่รู้จัก ร้านบัวลอยชื่อดังสูตรเก่าแก่กว่า 20 ปี หากคุณได้เดินผ่านที่ร้านบัวลอยแห่งนี้จะได้กลิ่นหอม หวาน มัน จนอดใจไม่ไหวอย่างแน่นอน และด้วยสีสันที่สดใสทำให้มีความน่ารับประทานเป็นอย่างมาก และต้องบอกเลยว่าที่เห็นสีสันสดใสแบบนี้สีที่ใช้ในการทำบัวลอยนั้นเป็นสีที่มาจากธรรมชาติ ไม่ใช้สีผสมอาหารอย่างแน่นอน จึงมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยได้เลย จะซื้อกลับบ้านก็ดี แต่หากนั่งรับประทานที่ร้าน ทางร้านก็จะเสิร์ฟน้ำกลิ่นใบเตยหอมอ่อน ๆให้อีกด้วย           ร้านบัวลอย รสเด็ดเจ้าดังที่อร่อยที่จะมาแนะนำร้านที่สอง คือ “บัวลอยสยาม” ร้านบัวลอยรสเด็ดเจ้าดังสูตรโบราณที่มีความเป็นเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก เพราะกะทิที่ใช้ในการทำบัวลอยของร้านนี้ใช้กะทิขาวอบควันเทียน จึงทำให้มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษ นอกจากนี้ยังมีเครื่องต่าง ๆให้เลือกใส่ในบัวลอยอีกมากมายตามความชอบ ทั้งยังมีราคาที่ไม่แพงเริ่มต้นเพียง 15 บาทเท่านั้นอีกด้วย           ร้านบัวลอย รสเด็ดเจ้าดังที่อร่อยที่จะมาแนะนำร้านที่สาม คือ“บัวลอย ปิ่นเจริญ 3” บอกเลยว่าใครจะมารับประทานบัวลอยรสเด็ดเจ้าดังแห่งนี้ต้องรอคิวกันนานสักหน่อย เพราะอร่อยจนมีผู้คนมารอต่อคิวซื้อหยาวเหยียดทุกวันเลยทีเดียว จุดเด่นของที่ร้านบัวลอยแห่งนี้คือ การนำส่วนผสมจากธรรมชาติ และสมุนไพรมาใช้ในการทำบัวลอยหลากสีนั่นเอง นอกจากนี้น้ำกะทิยังมีกลิ่นหอม หวาน มัน และมีรสชาติที่กลมกล่อมอย่างลงตัวไม่ว่าใครที่ได้รับประทานบัวลอยที่ร้านแห่งนี้รับรองเลยว่าจะอร่อยจนต้องไปกินซ้ำทุกรายอย่างแน่นอน           ร้านบัวลอย รสเด็ดเจ้าดังที่อร่อยที่จะมาแนะนำร้านที่สี่ คือ “คุณแดง ปั้นแป้ง บัวลอย-ไข่หวาน” ร้านบัวลอยสูตรดั้งเดิมที่นำมาประยุกต์ให้เข้ากับสมัยใหม่ และช่วยเพิ่มความน่ารับประทานให้มากขึ้น ด้วยการทำสีของบัวลอยให้มากถึง 7 สีเลยทีเดียว ในส่วนของรสชาตินั้นก็มีความดั้งเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลงด้วยสูตรที่ถูกส่งมารุ่นต่อรุ่น เป็นอีกหนึ่งร้านบัวลอยเจ้าดังที่อร่อยจนต้องไปกินซ้ำ เว็บไซต์เราได้แนะนำ ข้อมูลอาหาร ที่คัดสรรเมนูอร่อยมาเสิร์ฟไว้ให้คุณแล้ว ร้านขนมเบื้อง เจ้าเด็ด รสชาติอร่อย กรอบถึงใจ Gourmet Market สาขา Design Village แหล่งช้อปปิ้งย่านพุทธมณฑล ร้านอาหารสไตล์เกาหลี สูตรต้นตำรับแท้ในกรุงเทพ

ขนมไข่เต่าหรือขนมไข่นกกระทา  อาจหาทานได้ไม่ยากตามปากซอย เทศกาลอาหาร  หรืองานกาชาดประจำปีของจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งเป็นขนมไทยที่มีมาแต่สมัยโบราณ สามารถหาวัตถุดิบในการทำได้ง่าย  โดยมีลักษณะแป้งก้อนกลมสีเหลือง  บ้างก็มีสีสันอื่น ๆ ปะปนเพื่อนสร้างความโดดเด่นไปตามยุคสมัย  และในวันนี้เราขอเสนอ 3 ร้านดังขนมไข่เต่า ที่มีชื่อเสียงด้านความกรอบนุ่ม ให้ได้ไปฟินกัน     ร้านดังขนมไข่เต่า เทคนิคการทอดที่กรอบนอกนุ่มใน อร่อยสุดๆ ร้านดังขนมไข่เต่า ร้านแรกที่อยากแนะนำ คือ ร้าน Gamyuii Purple Sweets Potatoes (มันม่วงขนมไข่เต่า)  เริ่มกันที่ กทม. ย่านตลาดสายใต้ใหม่ ตรงข้ามกุ้งระเบิดถัง  ที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยเพลินลิ้น  ด้วยการผสมผสานกับมันม่วง  ที่ฮ็อตฮิตอยู่ในขณะนี้  ความกรอบนอก  นุ่มในและเหนียวกำลังดี  คือคุณสมบัติของขนมไข่เต่าที่สมบูรณ์แบบ ยิ่งเพิ่มกลิ่นหอม ๆ ของมันม่วงแท้ ๆ แล้วล่ะก็ ถือเป็นของทอดที่มีความลงตัวชนิดหนึ่งก็ว่าได้ นอกจากนั้นสีสันที่รายล้อมด้วยความเป็นสีม่วงเข้ม  ก็ไม่เว่อร์มากเกินไป  โดยอยู่ในรูปแบบแพ็กเกจจิ้งที่ร่วมสมัย ที่เสริมอรรถรสในการทานยิ่งขึ้น   ร้านดังขนมไข่เต่า ร้านที่สองที่อยากแนะนำ คือ ร้านขนมไข่กระทา  ขยับลงมาอีกนิด  ไปกันที่ หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ย่านตลาดโต้รุ่ง ใกล้ๆ กับร้านขนมเบื้องและไก่ทอดจินอัน  หรือถามผู้คนแถวนั้นได้  ก็จะรู้ถึงชื่อเสียงความอร่อยของขนมไข่เต่าหรือไข่นกกระทา  ตามพื้นที่ที่นิยมเรียกกัน  ซึ่งมาในรูปแบบชิ้นจิ๋วกว่าเจ้าอื่น ๆ ทั่วไป อาจจะไม่สะใจสายชิ้นบิ๊กเบิ้มสักเท่าไหร่  แต่ความอร่อย  ที่เน้นความหนึบหนับ  ก็ช่วยให้ลืมเรื่องขนาดไปได้  เทคนิคความกลมกล่อม ที่ทางร้านพร้อมนำเสนอก็ไม่ได้ยากอะไร  เพียงทอดทีละถาด เพื่อรักษาความร้อนให้สม่ำเสมอ  ในการเสิร์ฟความอร่อยถึงมือลูกค้าอย่างดีที่สุดเท่านี้เอง          ร้านดังขนมไข่เต่า ร้านที่สามที่อยากแนะนำ คือ ร้านไข่เต่าราตรี  ปิดท้ายกันที่ภาคใต้  อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กัน  ซึ่งมีแหล่งของกินที่น่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็นอาหารคาวหวาน หรือคาเฟ่สวยเด่นให้เลือกสัมผัสมากมาย แต่แค่ความเป็นรถเข็นเล็ก ๆ นี่แหละ ก็เอาอยู่แล้ว ซึ่งเป็นร้านขนมไข่เต่าที่หลุดกรอบด้านขนาด ที่มาด้วยความเป็นจัมโบ้  สัมผัสได้ถึงความฟิน  ที่อร่อยคับปากเลยทีเดียว  ความพิเศษนอกจากความเหลืองหอมน่ารับประทานแล้ว  เทคนิคการทอดที่ทำให้ขนมไม่อมน้ำมัน  ยังเป็นจุดเด่นอันมีชื่อเสียงในย่านนี้อีกด้วย  หากใครแวะเวียนมาหาดใหญ่  บริเวณหลังโรงแรมฟลอริด้า ปากทางซอย 2 ก็อย่าลืมไปหรอยแรงให้ได้เลยเชียว                        ทั้งหมดเป็นร้านเด็ดที่อร่อยขึ้นชื่อ ร้านดังขนมไข่เต่า หรือไข่นกกระทา  ไม่ว่าจะประยุกต์กับมันม่วง หรือรักษาความเป็นดั้งเดิมของตัวขนมก็ตาม  ต่างก็มีจุดเด่น  และรสชาติที่มีความพิเศษของแต่ละร้าน  ที่สำคัญต้องใส่ใจ ทั้งความสะอาด ความร้อน …

วันนี้เราขอแนะนำ เมนูถั่วลันเตาผัดกุ้ง ซึ่งเป็นเมนูที่อุดมไปด้วยโปรตีนจากถั่ว นั่นก็คือถั่วลันเตา แถมพ่วงด้วยโปรตีนจากเนื้อกุ้ง หากเพื่อนๆ รับประทานเจก็สามารถตัดเนื้อกุ้งออก แล้วเปลี่ยนเครื่องปรุงเล็กน้อยก็สามารถเป็นกับข้าวเพิ่มโปรตีนให้กับมื้ออาหารเจของเพื่อนๆ ได้เช่นกัน แต่สำหรับวันนี้เมนูถั่วลันเตาผัดกุ้ง เราขอผัดกับกุ้งตัวโตๆ เนื้อแน่นๆกันก่อน เราไปดูกรรมวิธีการทำพร้อมๆ กันเลย วัตถุดิบสำหรับเมนูถั่วลันเตาผัดใส่กุ้ง 1.กุ้งสด ปริมาณ 200 กรัม หรือ 2 ขีด 2.ถั่วลันเตา ปริมาณ 300 กรัม หรือ 3 ขีด 3.แครอท ปริมาณ 50 กรัม 4.กระเทียม ปริมาณ 3 – 5 กลีบ 5.น้ำมันพืช ปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ 6.น้ำมันหอย ปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ 7.น้ำสะอาด 8.ซีอิ้วขาว ปริมาณ 1/2 ช้อนชา 9.น้ำตาลทราย ปริมาณ 1 ช้อนชา 10.เกลือผง ปริมาณ 1/4 ช้อนชา อุปกรณ์สำหรับเมนูถั่วลันเตาผัดกุ้ง 1.มีด 2.เขียง 3.จานสำหรับวางพักวัตถุดิบ 4.ตะหลิว 5.กระทะ วิธีการทำเมนูถั่วลันเตาผัดกุ้ง 1.นำกุ้งสด ปริมาณ 200 กรัม หรือ 2 ขีด มาล้างให้สะอาด ปอกเปลือกออก และแกะเส้นดำกลางหลังกุ้งสดออก ล้างให้สะอาดอีกครั้ง แล้วตั้งให้สะเด็ดน้ำ ใส่จานวางพักไว้ 2.นำถั่วลันเตา ปริมาณ 300 กรัม หรือ 3 ขีด และ แครอท ปริมาณ 50 กรัม มาล้างให้สะอาด ตั้งให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นนำแครอทนำมาหั่นเป็นท่อนๆ ขนาดท่อนละประมาณ 3 – 5 เซนติเมตร ใส่จานวางพักไว้ 3.นำกระเทียม ปริมาณ 3 – 5 กลีบ มาแกะกลีบออก จากนั้นทุบหยาบๆ ใส่จานวางพักไว้…

สำหรับวันนี้เราขอแนะนำ เมนูข้าวผัดไส้กรอก โดยเป็นข้าวผัดที่ใส่ไส้กรอกเพื่อช่วยเพิ่มรสชาติความอร่อย ซึ่ง ไส้กรอก เป็นอาหารรับประทานเล่นที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายชนิด ยิ่งใครที่ชอบรับประทานไส้กรอกกันอยู่แล้วรับรองได้เลยว่าเมนูนี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งเมนูโปรดกันอย่างแน่นอน วัตถุดิบสำหรับทำเมนูข้าวผัดไส้กรอก 1.ข้าวสวย ปริมาณ 1 ถ้วย 2.ไส้กรอก ปริมาณ 1 แท่ง 3.ไข่ไก่ ปริมาณ 1 ฟอง 4.น้ำมันพืช ปริมาณ 1 ช้อนชา 5.แครอทหั่นเต๋า ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ 6.ต้นหอม ปริมาณ 1 – 2 ต้น 7.แตงกวา 8.มะนาว ปริมาณครึ่งซีก 9.กระเทียม ปริมาณ 1 – 2 กลีบ 10.ซีอิ้วขาว ปริมาณ 1 ช้อนชา 11.น้ำมันหอย ปริมาณ 2 ช้อนชา 12.น้ำตาลทราย ปริมาณ 1/2 ช้อนชา อุปกรณ์ทำ เมนูข้าวผัดไส้กรอก 1.มีด 2.เขียง 3.ตะหลิว 4.กระทะ วิธีทำในการทำ เมนูข้าวผัดไส้กรอก 1.นำแครอทมาล้างให้สะอาด ตั้งให้สะเด็ดน้ำ ปลอกเปลือกแครอท จากนั้นหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาดเล็ก ให้ได้ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ 2.นำต้นหอมจำนวน 2 ต้น มาล้างให้สะอาด ตั้งให้สะเด็ดน้ำ ตัดส่วนรากออก แล้วหั่นตามขวางให้มีขนาดเล็กลง 3.นำแตงกวามาล้างให้สะอาด ตั้งให้สะเด็ดน้ำ ปอกเปลือก แล้วหั่นตามขวางให้ได้ 3 ชิ้น 4.นำมะนาวมาล้างให้สะอาด ผ่าเป็น 2 ซีก เขี่ยเมล็ดมะนาวออก (อาจใช้ส้อม หรือ ไม้จิ้มฟันสะอาดยังไม่ผ่านการใช้งานเขี่ยเมล็ดมะนาวออก เพื่อให้ง่ายต่อการรับประทาน) 5.นำไส้กรอกมาหั่นตามขวางเป็นแว่นๆ เตรียมไว้ 6.นำกระเทียมมาปอกเปลือก จากนั้นทุบเตรียมไว้ 7.นำกระทะมาตั้งไฟ เติมน้ำมันพืชลงไป 1 ช้อนชา รอจนน้ำมันร้อนได้ที่เติมกระเทียมไปเจียวจนหอม 8.เติมข้าวลงไป 1 ถ้วย ผัดข้าวกับน้ำมันจนเข้ากัน เติมไส้กรอก ผัดจนเข้ากัน เติมแครอทลงไปผัดจนแครอทนิ่ม 9.ตอกไข่ลงไปผัดจนทั่วข้าวผัด จากนั้นเติมต้นหอมลงไป…

ใครที่ชอบรับประทานเค้กต้องไม่พลาดบทความนี้เลย เพราะบทความเกี่ยวกับนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอาหาร ขอแนะนำ ร้านเค้กในย่านสยาม ที่คุณต้องไม่พลาด เพราะนอกจากจะอร่อยถูกใจแล้ว ยังเดินทางสะดวกสบายด้วย BTS ได้อีกด้วย ถ้าพร้อมแล้วตามบทความนี้ไปตะลุยกินร้านเค้กสุดอร่อยในย่านสยามกันเลย ร้านเค้กในย่านสยาม เค้กเนียมนุ่มรู้สึกเหมือนละลายในปาก ร้านเค้กในย่านสยาม ที่อยากมาแนะนำร้านแรก คือ “Sweety Secret” ร้านเค้กสุดอร่อยสีชมพูสดใสโดนเด่นในย่านสยามที่มีเมนูเค้กให้เลือกมากกว่า 40 เมนูเลยทีเดียว ไม่ว่าคุณจะชอบรับประทานเค้กแบบไหนที่ร้านเค้กสุดอร่อยแห่งนี้ก็มีให้เลือกเยอะแยะมากมายจนเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังสามารถที่จะเลือกรับประทานเป็นแบบ Buffet เค้กได้อีกด้วย โดย Buffet เค้กจะอยู่ที่ราคา 259 บาท สามารถรับประทานกันได้เต็มอิ่มในระยะเวลา 1 ชั่วโมงครึ่งกันเลยทีเดียว บอกเลยว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอน สายหวานตัวจริงต้องไม่พลาดร้านเค้กสุดอร่อยในย่านสยามแห่งนี้           ร้านเค้กในย่านสยาม ที่อยากมาแนะนำร้านที่สอง คือ “Unna Cake” อีกหนึ่งร้านเค้กสุดอร่อยในย่านสยามที่คุณต้องไม่พลาด เพราะต้องบอกเลยว่าร้านเค้กแห่งนี้ทำเค้กแบบสด ๆใหม่ ๆทุกวัน ไม่นำเค้กเก่ามาวางขายอย่างแน่นอน นอกจากนี้รสชาติเค้กของร้านเค้กสุดอร่อยแห่งนี้ยังมีความหวานที่กำลังพอดี ไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป ทั้งยังมีเนื้อของเค้กที่เนียมนุ่มรู้สึกเหมือนละลายในปากได้เลยทีเดียว บอกได้คำเดียวว่าสายหวาน และสายที่ชอบรับประทานเค้กต้องมาลองให้ได้           ร้านเค้กในย่านสยาม ที่อยากมาแนะนำร้านที่สาม คือ “Sanrio Hello Kitty House Bangkok” ร้านเค้กสุดอร่อยในย่านสยามที่ต้องบอกเลยว่าสาว ๆที่ชอบ Kitty จะต้องร้องกรี๊ดอย่างแน่นอน เพราะเป็นร้านเค้กที่ออกแบบตกแต่งด้วย Kitty ทั้งหมดรวมไปจนถึงเค้ก และขนมต่าง ๆก็ยังเป็นรูปตัวการ์ตูน Kitty ทั้งหมด และนอกจากจะเป็นร้านเค้กสุดอร่อยแล้วยังมี Shop Kitty เล็ก ๆที่ขายของเกี่ยวกับ Kitty ทั้งหมดอีกด้วย รับรองเลยว่าสาวก Kitty จะต้องถูกใจกับร้านเค้กสีชมพูโดดเด่นใจกลางสยามแห่งนี้อย่างแน่นอน           ร้านเค้กในย่านสยาม ที่อยากมาแนะนำร้านที่สี่ คือ “Mori Dessert Bar” ร้านเค้กสีสันสดใสที่คุณต้องไม่พลาด ต้องบอกเลยว่าเค้กที่ร้านแห่งนี้เค้ามีหน้าตาที่น่ารัก น่ารับประทานแบบสุด ๆ และไม่เพียงแต่เมนูเค้กเท่านั้น เมนูเครื่องดื่มต่าง ๆเองก็เช่นกัน มีการตกแต่งที่น่ารักสดใส และจัดเต็มเป็นอย่างมากเลยทีเดียว บอกเลยว่าหากคุณได้มาในย่านสยามแล้วไม่ได้มาแวะที่ร้านเค้กแห่งที่ถือว่าพลาดเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เว็บไซต์เราได้แนะนำ ข้อมูลการทำอาหาร ที่คัดสรรเมนูอร่อยมาเสิร์ฟไว้ให้คุณแล้ว แนะนำ เมนูของหวานของสายคาเฟ่ เมนูที่ตกแต่งออกมาน่าทานมาก

“ขนมเบื้อง” ขนมไทยโบราณ  ที่เป็นแผ่นแป้งสอดไส้ต่าง ๆ  โดยอาจพัฒนารสชาติของไส้และสีสันให้มีความเป็นสากลมากขึ้น  โดยเห็นได้จากร้านค้าตามตลาดนัด  งานกาชาด หรือขึ้นห้างบรรจุด้วยแพ็กเกจจิ้งสวย ๆ ที่เพิ่มมูลค่าไปอีกขั้นหนึ่ง วันนี้เราขอแนะนำ 3 ร้านขนมเบื้อง เจ้าเด็ด ย่านแหล่งของกินที่น่าสนใจ ให้ได้ไปตำกัน ร้านขนมเบื้อง รสชาติอร่อยกลิ่นหอมไส้ทะลัก ร้านขนมเบื้อง ที่รสชาติหวานและกรอบอร่อย ขอแนะนำร้านแรก คือ ร้านสรินทร์ทิพย์ ขนมเบื้องไทยตลาดพลู  แลนด์มาร์คสำหรับของกินย่านธนบุรี  คงหนีไม่พ้นละแวกตลาดพลู  ที่มีอาหารให้เลือกสรรทั้งคาวและหวานมากมาย  หากใครมีโอกาสเดินเรียบเคียงแถวใต้สะพานคงได้เห็น กลิ่นหอมของขนมเบื้องไส้ทะลัก  โดยมีให้เลือกทั้งแบบใส่ไข่และไม่ใส่ไข่ หรือรสเค็มที่ผสมผสานความจัดจ้านของเครื่องเทศ และรสหวานที่มีความหอมของครีม  และไข่  ตามแต่ที่ชอบกัน  รับประกันความกรอบหอมอร่อย  ที่ถ่ายทอดสูตรมาแล้วถึง 5 รุ่นด้วยกันเชียว ร้านขนมเบื้อง ที่รสชาติหวานและกรอบอร่อย ขอแนะนำร้านที่สอง คือ ร้านขนมเบื้องไทยปัณณธร เอาใจสายขนมหวาน  ที่ชอบความสะดวกสบายของการเดินทาง ต้องร้านนี้เลย ขนมเบื้องไทยปัณณธร ซึ่งเป็นเจ้าดังแห่งบริเวณชั้น 4 ของห้างมาบุญครอง ที่มาพร้อมกับความหลากหลายของไส้  ไม่ว่าจะเป็น  ไส้ดั้งเดิมทั้งเค็มและหวาน  ชาโคล  ครีมใบเตย  หรือรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ประจำร้าน  อย่างไส้ฝอยทองลูกพลับ  ที่กรอบนอก และหวานนุ่มนวลกำลังดี  แต่ตัวแป้งที่ค่อนข้างหนาไปหน่อย  อาจไม่ถูกใจสายบางกรอบสักเท่าไหร่  แต่ความหลากหลายของไส้และรสชาติที่หวานกลมกล่อมนั้น  ก็อาจพอกลบบางข้อไปได้บ้าง                                                         ร้านขนมเบื้อง ที่รสชาติหวานและกรอบอร่อย ขอแนะนำร้านที่สาม คือ ร้านขนมเบื้องอาม่า ปิดท้ายด้วยย่านบางลำพู ที่ยอดนักชิมขนมเบื้องสายบางกรอบ ต่างเคลมว่าอร่อยถูกใจหลาย ๆ  โดยมาด้วยกันแค่ 2 ไส้ง่าย ๆ เค็มและหวาน แต่ความดั้งเดิมง่าย ๆ ของสูตรและรสชาตินี่แหละ ที่ปราบขนมเบื้องเจ้าดังอื่น ๆ มาแล้ว ด้วยรสชาติและความนุ่มของครีมที่ละลายในปาก หรือรสเค็มไส้ทะลักที่กัดเข้าไปแล้วเจอเนื้อกุ้ง  ก็เพิ่มความฟินตลอดจนเคี้ยวเพลินจนหมดถุงไม่รู้ตัว                ขนมเบื้อง  เป็นขนมสไตล์ไทยโบราณ  ที่มีเอกลักษณ์ด้านความหอมของตัวแป้ง  และมีรสชาติให้เลือกที่หลากหลาย  ทั้งคาวหวานจัดจ้านเผ็ดร้อนหรือละมุนลิ้น ตามแต่การประยุกต์และความพิถีพิถันของสูตรแต่ละร้าน  ซึ่งทั้งหมดเราอยากแนะนำ ร้านขนมเบื้อง ที่รสชาติหวานและกรอบอร่อย เป็นร้านที่มีมานาน ทำให้คนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่  ได้หันมาทานขนมโบราณแห่งตำนานที่ถ่ายทอดมาหลากหลายช่วงอายุคน  เว็บไซต์เราได้แนะนำ ข้อมูลการทำอาหาร ที่คัดสรรเมนูอร่อยมาเสิร์ฟไว้ให้คุณแล้ว แนะนำ ร้านดังแห่งขนมบดิน ขนมเค้กโบราณ เอาใจคนสายทานขนมหวาน

เมนูต้มข่าไก่ จัดเป็นเมนูต้มกะทิซดน้ำร้อนๆ เหมาะกับทุกคนในครอบครัว ด้วยรสชาติออกหวานที่น้องๆ หนูๆ สามารถรับประทานได้ ส่วนผู้ปกครองก็สามารถซดน้ำร้อนๆ แสนอร่อยพร้อมคุณประโยชน์ของเนื้อไก่และเห็ด รวมถึงมะเขือเทศที่เป็นวัตถุดิบหลัก แล้วยังมีวัตถุดิบอุดมประโยชน์อื่นๆ ใดอีกบ้างและมีกรรมวิธีการทำอย่างไรเราไปพร้อมๆ กันเลย วัตถุดิบในการทำ เมนูต้มข่าไก่ 1.สะโพกไก่ ปริมาณ 500 กรัม หรือ 5 ขีด 2.มะเขือเทศ ปริมาณ 3 – 5 ลูก 3.เห็ดนางฟ้า ปริมาณ 1 กำมือ 4.ข่า ปริมาณ 3 – 5 ต้น 5.ตะไคร้ ปริมาณ 2 – 3 ต้น 6.ใบมะกรูด ปริมาณ 8 – 10 ใบ 7.น้ำมะนาว ปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ 8.น้ำปลา ปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ 9.น้ำตาลทราย ปริมาณ 1 ช้อนชา 10.น้ำสะอาด ปริมาณ 500 กรัม หรือ 5 ขีด 11น้ำกะทิ ปริมาณ 300 กรัม หรือ 3 ขีด 12.พริกชี้ฟ้า ปริมาณ 3 – 5 เม็ด อุปกรณ์ในการทำ เมนูต้มข่าไก่ 1.มีด 2.เขียง 3.จานสำหรับวางพักวัตถุดิบ 4.หม้อ 5.จวัก วิธีทำในการทำเมนูต้มข่าไก่ 1.นำสะโพกไก่ ปริมาณ 500 กรัม หรือ 5 ขีด มาล้างให้สะอาด หั่นให้มีขนาดพอดีคำ วางใส่จานพักไว้มาล้างให้สะอาด 2.นำมะเขือเทศ ปริมาณ 3 – 5 ลูก มาล้างให้สะอาด เด็ดขั้วมะเขือเทศออก หั่นตามความยาวของลูก 1 ลูก…

ถ้าคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ข้าวผัด คุณต้องไม่พลาด ข้าวผัดรถไฟสูตรโบราณ ซึ่งเป็นเมนูโบราณที่มีมานานแล้ว และปัจจุบันก็กลับมาฮิตอีก เนื่องจากเป็นเมนูที่กินแล้วทำให้คิดถึงสมัยวัยเยาว์ เป็นรสชาติแสนอร่อยที่คุ้นเคยและทำให้หัวใจอบอุ่นจริงๆ ข้าวผัดรถไฟสูตรโบราณ ที่มีตำนานเรื่องเล่ามาก่อน ตำนานข้าวผัดรถไฟ ในสมัยอดีต ข้าวผัดรถไฟสูตรโบราณ เป็นเมนูสำหรับคนมีฐานะ ที่นิยมเดินทางไปตากอากาศ โดยมีที่มาจากเมนูเที่ยวรถไฟธนบุรี –หัวหิน ที่ใช้เวลานานถึง 5 ชั่วโมง จึงทำให้ผู้โดยสารเริ่มหิว การรถไฟจึงคิดค้นเมนูข้าวผัดรถไฟเพื่อให้บริการ ซึ่งส่วนผสมของข้าวผัดก็เป็นวัตถุดิบชั้นดีนำเข้าโดยเฉพาะกุนเชียงและเนย ต่อมาพ่อค้าแม่ค้าริมทางรถไฟก็ นิยมทำ ข้าวผัดรถไฟสูตรโบราณ นี้มาเร่ขายที่สถานีรถไฟ ซึ่งโดยมากมักไม่ใส่กุนเชียง ใส่เฉพาะหมูชิ้น และมักจะห่อข้าวผัดด้วยใบตองหรือกระดาษ ซึ่งข้าวผัดรถไฟผัดร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมฉุย ย่อมกระตุ้นน้ำลายคนหิวได้เป็นอย่างดี แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันไม่มีบรรยากาศการเร่ขายแบบนี้ให้เห็นบ่อยนัก ดังนั้น ข้าวผัดรถไฟสูตรโบราณ จึงไม่เป็นที่รู้จักของคนยุคนี้ และจะว่าไปแล้วส่วนผสมของข้าวผัดรถไฟก็จะคล้ายๆ กับข้าวผัดซีอิ๊วหมู คือ เรียบง่าย ใครๆ ก็ชอบกิน แต่ในความธรรมดานี้ บอกเลยว่าอร่อยลืมตายทีเดียว ส่วนผสมในการทำข้าวผัดรถไฟสูตรโบราณ ข้าวสวย (ควรใช้ข้าวเสาไห้)                                        6                           ทัพพี หมูหมักซีอิ๊วขาวหั่นชิ้นพอดีคำ                                  200                      กรัม กุนเชียง (จะใส่หรือไม่ก็ได้)                                        100                      กรัม ไข่ไก่                                                                             3                           ฟอง กระเทียมสับ                                                                 1                           ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย                                                                  2                           ช้อนชา ซีอิ๊วดำ                                                                          3                           ช้อนชา ซีอิ๊วขาว                                                                        2                           ช้อนชา น้ำปลา                                                                          2                           ช้อนชา พริกไทยป่น                                                                  ½                          ช้อนชา น้ำมันพืช                                                                      3                           ช้อนโต๊ะ คะน้าหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ                                              3                           ต้น มะเขือเทศหั่นตามยาวเป็นชิ้นพอดีคำ                         3                          …