ในช่วงนี้ในอยู่บ้าน Work from home แล้วรู้สึกว่าตัวเองนั้นอ้วนขึ้นบ้าง อยากจะลองทำอาหารทานแบบไหนก็ได้ที่แคลอรี่ต่ำแต่ว่าอิ่มท้องนาน ไม่หิวจุกจิกและที่สำคัญคือราคาต้องไม่แพง ข้อมูลการทำอาหาร เพราะราคาคลีนบางร้านขายแพงมาก แพงกว่าอาหารปกติเสียอีก ช่วงนี้เงินก็สำคัญไม่อยากให้ใช้จ่ายที่เกินตัวสักเท่าไหร่ เราขอแนะนำ เมนูผักกาดต้มไข่ เมนูง่าย ๆ บ้าน ๆ ที่ทานแล้วอิ่มท้องเหมือนกันนะได้สารอาหารที่ครบถ้วนด้วย มาดูวัตถุดิบและวิธีทำกันเลย เมนูผักกาดต้มไข่ ที่เลือกวัตถุดิบได้ตามใจชอบ ผัก 1  หัว และแครอทเพื่อสีสันของอาหาร เนื้ออะไรก็ได้ตามใจชอบ หมู ไก่ ปลา ทะเล ไข่ไก่ 2 ฟอง น้ำจิ้มสุกี้ เต้าหู้ไข่ 1 หลอด วิธีทำเมนูผักกาดไข่ต้ม เมนูอร่อยทีทำทานได้ง่าย เริ่มแรกในการทำ เมนูผักกาดไข่ต้ม โดยให้เราล้างผักทุกชนิดให้สะอาดก่อน การทำผักกาดไข่ต้มนั้นเราไม่ได้จำกัดแค่ว่าจะต้องเป็นแค่ผักกาดกับแครอทอย่างเดียว เราสามารถเพิ่มผักอื่น ๆ ได้ แต่ตัวหลักสำหรับเมนูนี้นั้นก็คือผักกาด เพราะว่าผักกาดนั้นมีเนื้อที่เยอะ เวลาเราต้มมันจะทำให้เราทานได้ง่าย อร่อยและอิ่มนานนั้นเอง หลังจากที่ล้างผักเสร็จแล้วให้ทำการหั่นผักเป็นชิ้นเล็ก ๆ ชิ้นไหนใหญ่ก็ให้หั่นมันให้เล็กหน่อย เพราะมันจะให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเรามีกับข้าวในจานเยอะทั้ง ๆ เรามีแต่ผักกาดที่หั่นเท่านั้น หลังจากนั้นให้น้ำผักกาดไปต้มกับน้ำถ้าหากใครอยากจะให้น้ำนั้นมีรสชาติบ้างก็ให้ใส่ผงชูรสลงไป มันก็แล้วแต่คนชอบ แต่สำหรับคนที่ชอบแบบคลีนจ้า ๆ ให้ใส่แค่น้ำจิ้มสุกี้อย่างเดียวก็พอ หลังจากที่ต้มผักเสร็จแล้วให้นำเนื้อลงไปใส่ต่อและตามด้วยการตอกไข่ใส่ลงไป ถ้าหากใครไม่ชอบไข่เป็นก้อนก็ให้คนให้มันเข้ากัน ถ้าหากใครที่ชอบไข่เป็นก้อนก็ไม่ต้องคนแต่ต้องระมัดระวังไม่ให้ไข่นั้นแตกออกมาด้วย หลังจากที่กะปริมาณการสุกของผัก เนื้อและไข่ได้ทีแล้วให้เทลงจานพร้อมกับการราดน้ำจิ้มสุกี้เป็นอันเสร็จสิ้น สำหรับ เมนูผักกาดต้มไข่ เมนูแกงคั่วเห็ดเผาะ เมนูอาหารรสชาติอร่อย เมนูไข่ทอดสามรส เมนูไข่ประโยชน์มากมายแถมยังอร่อยสุดๆ เมนูไข่พระอาทิตย์ เมนูเทียบเคียงข้าวไข่เจียว รสชาติอร่อยน่าทาน เมนูอาหารจากมะระ หวานเป็นลมขมเป็นยา บอกเลยว่าดีต่อสุขภาพแน่นอน

สำหรับใครที่เป็นสายหมูทอดแบบบ้าน ๆ ไม่ควรที่พลาดการทำ วิธีทำหมูทอดน้ำปลา นะ แต่แม้ว่าอุปกรณ์และวัตถุดิบในการทำนั้นน้อยมาก ไม่ได้ต้องมักเครื่องเทศอะไรเยอะ แต่อยากจะบอกว่าหมูทอดน้ำปลาเป็นหมูทอดที่อร่อยมาก อร่อยแบบดั้งเดิม และ วิธีทำหมูทอดน้ำปลา มันให้ความรู้สึกคิดถึงเรื่องราวสมัยเด็ก ๆ ที่เรากินอะไรก็ง่ายไม่ต้องไม่ต้องทำอาหารเอง มีคุณแม่ค่อยทำให้ทาน การทำหมูทอดน้ำปลาทานเหมือนกับการย้อนวัยความทรงจำในวัยเด็กเลยก็ว่าได้ อาหารเด็ด เพราะช่วงนั้นแม่ทำให้อะไรให้ทานเราก็ทานหมด อาจจะไม่ได้เป็นอาหารที่เลิศหรูแต่มันก็ดีที่สุดในช่วงนั้นแล้ว เอาล่ะ มาดูวัตถุดิบและวิธีทำกันเลย วิธีทำหมูทอดน้ำปลา ที่มีขั้นตอนการทำง่ายๆ เนื้อหมู ตามใจชอบ ถ้าอยากที่จะทำเยอะก็ให้ซื้อมา 1 กิโลกรัม เราไม่จำเป็นต้องเอาหมูธรรมดามาทำ ถ้าหากชอบทานสามชั้นก็นำมาใช้ได้ โดยมีวัตถุดิบในการทำ ดังนี้ น้ำปลา 3 ช้อน น้ำตาลทราย 2 ช้อน น้ำมันไว้สำหรับทอดหมู รากผักชี 1 กำ วิธีทำหมูทอดน้ำปลา ก่อนอื่นเลยให้เราเริ่มจากการหั่นหมูเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อน ต้องหั่นเป็นชิ้นที่พอดีไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป เพราะแน่นอนตอนที่เราทอดไปยังไงเนื้อหมูก็จะหดลงอยู่ดี หลังจากที่เราหั่นหมูทอดน้ำปลาเสร็จแล้ว ให้ทำเครื่องปรุงสำหรับการหมักหมูโดยเริ่มจากการเทน้ำตาลทรายลงไปถ้วยพร้อมกับน้ำปลา จากนั้นให้ข้นกันนิดหน่อยเพื่อให้น้ำตาลทรายได้ละลายเข้ากับน้ำปลา จากนั้นให้นำหมูที่เราหั่นแล้วเทเข้ามาในน้ำหมักน้ำปลาที่เราทำและทำการคลุกเค้าให้เข้ากัน หลังจากนั้นนำไปแช่ตู่เย็นประมาณ 5 น้ำ ใช่ช่วงเวลาที่เรากำลังแช่หมูหมักน้ำปลาอยู่ ในเราทำการเตรียมกระทะพร้อมกับน้ำมัน เพราะพอถึงเวลาจะได้น้ำหมูลงมาทอดทันที การที่จะทอดหมูให้สวยนั้นจำเป็นต้องรอน้ำมันให้เดือดพอดีก่อน จึงค่อยเทหมูที่หมักน้ำปลาของไปทอด แต่การทอดหมูน้ำปลาเราจะไม่แช่หมูทอดลงไปในน้ำมัน เราจะทำการคน ๆ หมูกับน้ำมันเพื่อให้มันเข้าที่กันด้วยเพื่อให้ความสุกของหมูนั้นทั่วถึงนั้นเอง ทอดจนกว่าจะเจอสีที่พอใจเป็นอันเสร็จสิ้นสำหรับ วิธีทำหมูทอดน้ำปลา การทำน้ำจิ้มลูกชิ้นสูตรเด็ด ไว้กินกันเองที่บ้านได้ง่ายๆ เต้าหู้ไข่ วัตถุดิบที่มีคุณประโยชน์มากมายรสชาติอร่อย เมนูน้ำพริกมะขาม ทีเด็ดสำหรับคนชอบกินรสจัดจ้าน เมนูข้าวผัดรถไฟ เมนูสุดไฮโซ เมื่อ 80 ปีก่อนที่หาทานได้บนรถไฟเท่านั้น

วันนี้เรามีเมนูที่มีชื่อว่า เมนูหมูสามชั้น คั่วพริกเกลือ จะให้อร่อยต้องคั่วให้เร็ว คั่วให้ไว แน่นอนครับทุกคน ตามชื่อเมนู วัตถุดิบหลักที่เราจะใช้ในวันนี้จะเป็น “หมูสามชั้น” 1 กิโลกรัม ส่วนวัตถุดิบอื่นๆ และเครื่องปรุง อาหารเด็ด จะต้องใช้อะไรบ้าง เราไปดูวิธีการทำกันเลย เมนูหมูสามชั้น คั่วพริกเกลือ เมนูรสชาติสามรส ขั้นตอนแรก ของ เมนูหมูสามชั้นคั่วพริกเกลือ เราจะมาเตรียมในส่วนของ “หมูสามชั้น” กันก่อน ลอกในส่วนของหนังออกครับ จากนั้นหั่นเป็นชิ้นพอดีคำเอาไว้ จากนั้นคลุกเกลือ แล้วนำไปล้างด้วยน้ำสะอาด เสร็จแล้วสะเด็ดน้ำให้แห้งครับ ขั้นตอนต่อไป เราจะตำ กะเทียม และ พริกสด รอไว้เลยครับ อย่างละ 20 “พริกเหลือง หรือ พริกชีฟ้า” 2-3 เม็ดหั่นเฉียง “ใบมะกรูด” 5-7 ใบ “ใบโหระพา” 1 กำมือ โอเคครับ เมื่อเราเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว เราไปที่เตากันเลย ขั้นตอนต่อไป ตั้งกะทะ ใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันให้พอท่วมหมู พอน้ำมันเริ่มเดือด ให้โรยเกลือที่หมู 1 ช้อน คลุกให้เข้ากัน แล้วเอาหมูลงไปทอดได้เลย เราจะทอดจนได้ความสุก และความกรอบที่ต้องการ เสร็จแล้วตักขึ้นไปพักไว้ก่อน จากนั้นที่กะทะใบเดิม เอากะเทียมที่เราตำไว้ลงไปเจียวได้เลย หรือใครที่มีกะเทียมเจียวอยู่แล้ว จะข้ามขั้นตอนนี้ไปก็ได้ เสร็จแล้วพักไว้ก่อนครับ แล้วไปทำอย่างอื่นกันต่อ เมนูหมูสามชั้นคั่วพริกเกลือ ขั้นตอนต่อไป เราจะตั้งกะทะอีกรอบ ใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมัน 1 ทัพพี ตามด้วย “หมูทอด และ กะเทียมเจียว” ที่เราเตรียมเอาไว้ ต่อด้วย “พริกสดตำ” ผัดให้ทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นปรุงรสด้วย “น้ำตาลทราย” 1 ช้อน “ซอสหอยนางรม” 2 ช้อน จากนั้นเร่งเป็นไฟแรง แล้วคลุกเคล้าให้ทุกอย่างเข้ากัน ตามด้วย “ใบโหระพา ใบมะกรูด และ พริกเหลือง” ที่เราเตรียมไว้แล้ว จังหวะนี้ต้องใช้ความไวนะครับ ไม่ต้องผัดนาน เพราะทุกอย่างที่เราใส่ลงไปสุกหมดแล้ว ถ้าผัดนานหมูจะไม่กรอบ แค่นี้ก็เป็นอันเรียบร้อย พร้อมรับประทาน เป็นยังไงบ้างครับทุกคนสำหรับ เมนูหมูสามชั้นคั่วพริกเกลือ ทำตามไม่ยากเลยใช่ไหมครับ…

วันนี้เรามีเมนูที่มีชื่อว่า เมนูต้มแซ่บ ซี่โครงหมูอ่อน สูตรแซ่บสร่างเมา “ต้มแซ่บ” คือหนึ่งเมนูที่อยู่คู่กับวงเหล้า วัตถุดิบหลักของเราในวันนี้จะเป็น “ซี่โครงหมูอ่อน” 2 กิโลกรัม ส่วนวัตถุดิบอื่นๆ ข้อมูลการทำอาหาร และเครื่องปรุงต้องใช้อะไรบ้าง เราไปดูวิธีการทำพร้อมกันเลย  เมนูต้มแซ่บ ซี่โครงหมูอ่อน น้ำซุปร้อนๆมีความขลุกขลิก ขั้นตอนแรก ของ เมนูต้มแซ่บซี่โครงหมูอ่อน เราจะมาเตรียมในส่วนของ “ซี่โครงหมู” หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ล้างด้วยเกลือ เสร็จแล้วพักไว้ก่อน แล้วไปที่เตากันเลย ขั้นตอนต่อไป ตั้งหม้อ ใช้ไฟกลาง ใส่น้ำเปล่า 2,000 มิลลิลิตร ไม่ต้องรอให้น้ำเดือดครับ ตามด้วยเกลือ 1 ช้อน พอน้ำเริ่มเดือดให้เราใส่ “หอมแดง กะเทียม” อย่างละ 10 กลีบไม่ต้องหั่น ตามด้วย “พริกไทยเม็ด” 10 เม็ด ทิ้งให้เดือดสักพัก ให้เราใส่ “ซี่โครงหมู” ลงมาได้เลย จากนั้นเร่งเป็นไฟแรงครับ ในช่วงนี้จะมีฟองขาวในน้ำซุป ให้เราตักออกให้หมดครับ จะทำให้น้ำซุปเราใสกิ๊งน่ากิน พอตักฟองออกหมดแล้ว เราจะลดมาเป็นไฟอ่อน จากนั้นปิดฝา และตุ๋นต่อประมาณ 20 นาที  ระหว่างที่เรารอหมูสุก เราจะมาทำอย่างอื่นกันต่อ เราจะหั่น “ข่า” 1 หัว “ตะไคร้” 4 หัว ทุบแล้วหั่นเฉียง “ใบมะกรูด” 5-7 ใบ “ผักชีไทย” 3-5 ต้น หั่นไม่ต้องฝอยมาก “ผักชีฝรั่ง” 5-7 ใบยาวไม่ฝอยมาก “พริกขี้หนู” 20-30 เม็ด ตำพอแหลก พอเราเตรียมทุกอย่างเสร็จแล้ว ตุ๋นครบ 20 นาทีแล้ว ง่ายมากสำหรับ เมนูต้มแซ่บซี่โครงหมูอ่อน โดยให้เราใส่ “ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และผักชี” ลงไปในหม้อได้เลย แล้วทิ้งให้เดือดพอผักสลด แล้วปิดไฟได้เลย เราจะมาปรุงรสนอกเตากัน เตรียมชามใบใหญ่มา 1 ใบครับ เราจะใส่ “พริกขี้หนู” ที่เราตำไว้ ตามด้วย “น้ำปลา” 3 ช้อน “น้ำมะนาว”…

วัตถุดิบที่เราจะใช้ทำ “ต้มจับฉ่าย” เน้นหนักไปทางผักครับ ในครั้งนี้เราจะใส่ “ซี่โครงหมูอ่อน” 1 กิโลกรัม เพื่อเพิ่มความน่ากินขึ้นไปอีก “ต้มจับฉ่าย” เขาว่ากันว่า เมนูต้มจับฉ่ายซี่โครงหมูอ่อน ยิ่งต้มนาน เคี่ยวหลายน้ำยิ่งอร่อย คราวนี้เราจะมาทำให้อร่อยตั้งแต่น้ำแรกเลย มีวิธีการทำยังไงไปดูพร้อมกัน เมนูต้มจับฉ่ายซี่โครงหมูอ่อน ตุ๋นด้วยไฟอ่อนๆซดน้ำร้อนๆ ขั้นตอนแรก เรามาเตรียมในส่วนของผักกันก่อน เราจะใช้ คะน้า กวางตุ้ง หัวไชเท้า ขึ้นฉ่าย แครอท ผักกาดขาว กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก และ อย่างละเท่าๆกัน และเต้าหู้ 4-5 ก้อน แล้วหั่นทุกอย่างเป็นชิ้นพอดีคำ ส่วนซี่โครงหมู หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ล้างด้วยเกลือ เสร็จแล้วเราไปที่เตากันเลย ขั้นตอนต่อไปของ เมนูต้มจับฉ่ายซี่โครงหมูอ่อน ตั้งหม้อ ใช้ไฟแรง ใส่น้ำประมาณครึ่งหม้อ หรือดูให้เหมาะสมกับปริมาณของผักที่เราเตรียมเอาไว้ จากนั้นใส่ “กะเทียมจีน” 10 กลีบ “พริกไทยเม็ด” 1 ช้อน “เกลือ” 1 ช้อน ซีอิ๊วขาว” 3 ช้อน “น้ำตาลปี๊ป” 1 ช้อน พอน้ำเริ่มเดือด ใส่ซี่โครงหมูลงไปได้เลย จากนั้นลดเป็นไฟกลาง แล้วตุ๋นทิ้งไว้เลย หลังผ่านไป 10-15 นาที เราจะใส่ “หัวไชเท้า และ แครอท” ลงไปแล้วตุ๋นต่อไปเรื่อยๆครับ อาหารเด็ด จากนั้นเราจะตั้งกะทะอีกใบที่เตาข้างๆครับ ใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมัน 1 ทัพพี ตามด้วย “กะเทียมบด” 1 ทัพพี ผัดพอให้กะเทียมมีกลิ่นหอม ตามด้วย “เต้าหู้” และผักต่างๆตามลงมาได้เลย เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย พอให้ผัดง่าย แล้วผัดไปเรื่อยๆ ปรุงรสด้วย “น้ำปลา น้ำมันหอย” อย่างละ 4 ช้อน “น้ำตาลทราย” 1 ช้อน แล้วผัดไปเรื่อยๆจนผักพอสลด พอผัดเสร็จแล้ว เราจะเอาทุกอย่างที่เราผัด ใส่ลงไปในหม้อที่เราตุ๋นซี่โครงหมูเอาไว้ จากนั้นตุ๋นด้วยไฟอ่อนทิ้งไว้ ประมาณ 1 ชั่วโมง แค่นี้ก็พร้อมทานครับ ไม่ต้องปิดไฟนะครับ ตุ๋นทิ้งไว้ทั้งวันจะยิ่งอร่อย เป็นยังไงบ้างครับสำหรับ…

วันนี้เรามีเมนูที่มีชื่อว่า เมนูข้าวผัดรถไฟ เมนูสุดไฮโซ เมื่อ 80 ปีก่อน “ข้าวผัดรถไฟ” คืออะไร ทำไมต้องเรียกแบบนี้ แอดมินขอบอกเลยว่า นี่เป็นเมนูระดับอ๋องเมื่อ 80 ปีที่แล้ว ที่จะมีขายบนรถไฟเท่านั้น ซึ่งมันจะมีวิธีการทำเหมือนข้าวผัดทั่วไปนั่นแหละ แต่ความไฮโซคือ เมื่อ 80 ปีก่อนวัตถุดิบที่ใช้ทำอย่างเช่น เนย ถั่วลันเตา กุนเชียง รวมไปถึง ซอสมะเขือเทศ จะถูกนำเข้าจากต่างประเทศ และที่สำคัญ เมนูข้าวผัดรถไฟ สูตรนี้จะมีขายบนรถไฟเท่านั้น เป็นการเสิร์ฟให้กับเหล่าคนรวย ที่นั่งรถไฟจากพระนครไปตากอากาศที่หัวหิน ซึ่งปัจจุบันสูตรก็เปลี่ยนแปลงไปตามวันเวลา จนบางคนลืมชื่อนี้ไปแล้วก็มี เมนูข้าวผัดรถไฟ ที่มีส่วนผสมหลักคือหมูสามชั้น โอเคครับ ขึ้นชื่อว่าข้าวผัด จะรถไฟหรือกรรไกร ผ้าไหม ก็จะต้องมีข้าวเป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งวันนี้เราจะใส่ หมูสามชั้น ลงไปด้วย ส่วนวัตถุดิบ และเครื่องปรุง เราจะต้องใช้อะไรบ้าง เราไปดูวิธีการทำพร้อมกันเลย ขั้นตอนแรก เราจะมาเตรียมวัตถุดิบกันก่อน “ข้าวสวย” แน่นอนว่าเรามีกันทุกบ้านอยู่แล้ว เราจะใช้ 2-3 ถ้วย “หมูสามชั้น” เอาหนังออก หั่นเป็นชิ้นบางหน่อย “มะเขือเทศ” 2 ลูก หั่นชิ้นพอดี “หอมใหญ่” ครึ่งหัว ซอยพอดี “คะน้า” 2 ต้น ตัดใบแก่ออก แกะเปลือกช่วงต้นออก หั่นเฉียง “กะหล่ำ” 1/4 หัวหั่นพอดีไม่ฝอย “ต้นหอม และ ผักชีไทย” อย่างละ 3 ต้น หั่นพอดี โอเคครับพอเตรียมทุกอย่างเสร็จแล้ว เราไปทำขั้นตอนต่อไปกันต่อ ขั้นตอนต่อไป เราจะมาปรุงข้าวกันก่อน เตรียมชามใบใหญ่มา 1 ใบ ใส่ข้าวลงไป ตามด้วย “น้ำปลา น้ำมันหอย ซอสปรุงรส” อย่างละ 1 ช้อน “น้ำตาลทราย” ครึ่งช้อน “ซีอิ๊วดำ” ครึ่งช้อน “ซอสชมพู หรือ ซอสเย็นตาโฟ” 1 ช้อน “พริกไทยป่น” 1/2 ช้อน แล้วคลุกให้เข้ากันครับ จากนั้นไปที่เตากันเลยขั้นตอนต่อไป ตั้งกะทะ ใช้ไฟกลาง…

วันนี้เรามีเมนูที่มีชื่อว่า แกงเทโพหมูสามชั้น น้ำแกงเข้มข้น ผักบุ้งเขียวน่ากิน สำหรับวัตถุดิบหลักของเราในวันนี้ เราจะใช้ “ผักบุ้งขาว” ประมาณ 1 กำมือ และ “หมูสามชั้น” 1 กิโลกรัม ส่วนวัตถุดิบอื่นๆ และเครื่องปรุง ต้องใช้อะไรบ้าง เราไปดูวิธีการทำพร้อมกันเลย แกงเทโพหมูสามชั้น รสชาติเผ็ดหอมเครื่องแกงกลมกล่อม ช่วงสาระมีอยู่จริง “แกงเทโพ” ทำไมต้องเรียกแบบนี้ ในสมัยก่อนแกงเผ็ดชนิดนี้ จะใส่กะทิ ผักบุ้ง และปลาเทโพ เป็นหลัก ทำให้ถูกเรียกว่า “แกงเทโพ” หรือ “แกงปลาเทโพ” นั่นเอง ซึ่งปัจจุบัน แกงเทโพหมูสามชั้น นิยมใส่หมูสามชั้น กุ้งสด ลงไปด้วย หรือบางทีก็ไม่มีส่วนผสมของ ปลาเทโพแล้ว แต่ก็ยังเรียกว่า “แกงเทโพ” เหมือนเดิม ขั้นตอนแรก เราจะมาเตรียมวัตถุดิบกันก่อน “ผักบุ้ง” ให้เราตัดช่วงโคนออกสัก 1 นิ้วชี้ จากนั้นหั่นยาวประมาณนิ้วชี้ ส่วน “หมูสามชั้น” หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ในส่วนของเครื่องแกง เราจะตำ “พริกแห้งเม็ดใหญ่” 15 เม็ด “หอมแดง” 15 กลีบ และ “กะปิ” ครึ่งช้อน ตำเข้ากันให้ละเอียด เสร็จแล้วไปทำขั้นตอนต่อไปกัน ช่วงสาระมีอยู่จริง ผักบุ้งไทย มี 2 สายพันธ์ ในส่วนที่เรานำมาทำ “แกงเทโพ” คือ “พันธ์ก้านเขียวขาว” หรือเราเรียกว่า “ผักบุ้งขาว” จะมีล้ำต้นที่ใหญ่ อวบ ยาว ส่วนอีกสายพันธ์คือพันธ์ก้านแดง มีลักษณะลำต้นเล็ก ขนาดสั้น เอาไว้ทานกับส้มตำ หรือลวกทานกับน้ำพริก ขั้นตอนต่อไปของ แกงเทโพหมูสามชั้น ตั้งหม้อ ใช้ไฟกลาง ใส่หัวกะทิและหางกะทิ รวมกัน 2,000 มิลลิลิตร ตามด้วย “เครื่องแกง” ใส่ไปเลยครับ ไม่ต้องรอให้น้ำเดือด แล้วละลายเครื่องแกงให้เข้ากับกะทิ อาหารเด็ด ตามด้วย “น้ำปลา” 3 ทัพพี “น้ำตาลปี๊ป” 1 ทัพพี แล้วคนให้น้ำตาลละลาย ต่อด้วย “น้ำมะขามเปียก” 2…

แม้ว่าความจริงแล้วแหนมหมูหรือแหนมเนื้อจะไม่ได้เป็นของดิบอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่มันก็ไม่ได้สุกมากพอที่จะวางใจเกี่ยวกับเชื้อโรคบางชนิดได้ อีกทั้งเรื่องความสะอาดก็เป็นสิ่งที่เรามองข้ามไปไม่ได้เช่นเดียวกัน แหนมเห็ด จึงกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับหลายๆ คน เพราะทำกินเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน ใช้ส่วนผสมน้อย ต้นทุนต่ำ และยังได้รสชาติเปรี้ยวแบบที่ชื่นชอบกันอีกด้วย ขอแค่มีเวลาไปจ่ายตลาดและนั่งมัดแหนมสักหน่อยก็พอแล้ว แหนมเห็ด ที่ใช้วัตถุดิบหลักคือเห็ดนางฟ้า อันดับแรกของ แหนมเห็ด มาดูที่ส่วนผสมกันก่อนเลย สูตรพื้นฐานของแหนมเห็ดจะใช้เป็นเห็ดนางฟ้าเพียงอย่างเดียว แต่เราได้พิสูจน์แล้วว่าจะเลือกใช้เป็นเห็ดอะไรก็ได้ ขอแค่อย่าให้เนื้อเห็ดหนาเกินไป อย่างเช่น ถ้าใช้เห็ดหอมก็ควรซอยให้เป็นแผ่นบางเสียก่อน หรือถ้าใช้เห็ดออรินจิก็ต้องตัดเป็นท่อนสั้นแล้วซอยให้บางเช่นกัน วัตถุดิบอื่นที่ต้องใช้ร่วมกันก็คือ เกลือ กระเทียม ข้าวกล้อง และพริกขี้หนูสวน ในส่วนของข้าวและพริกสด หากไม่มีตามที่แนะนำก็สามารถประยุกต์ใช้ข้าวและพริกชนิดอื่นได้เช่นกัน วิธีการทำ แหนมเห็ด ก็ดูเรียบง่ายพอๆ กับเรื่องของวัตถุดิบ ให้จัดการล้างเห็ดที่จะเอามาทำแหนมเห็ดให้สะอาด พยายามล้างหลายๆ น้ำสักหน่อยจะได้ไม่มีปัญหาตอนเอาไปห่อแหนม จากนั้นฉีกหรือหั่นเป็นเส้นบาง บีบน้ำออกจากเนื้อเห็ดให้หมดแล้วพักไว้ หันไปหุงข้าว ข้อมูลการทำอาหาร และปั่นกระเทียมกับเกลือให้เข้ากัน พอทุกอย่างพร้อมแล้วก็เอามาคลุกกับเห็ดได้เลย  กระบวนการเกิดแหนมจะเริ่มตั้งแต่วันแรก แต่รสชาติจะเข้าเนื้อทั่วถึงหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับขนาด แหนมเห็ด ที่เราทำ ดังนั้นควรห่อขนาดพอดีคำอย่าใหญ่เกินไป จะใช้เป็นถุงสำเร็จหรือตัดก้นถุงร้อนมาใช้ก็ได้ แล้วใส่พริกขี้หนูไว้ก้นถุง 1 เม็ด ตามด้วยการอัดส่วนผสมที่คลุกเอาไว้แล้วลงไปให้แน่น มัดปากถุงให้มิดชิดและเก็บใส่กล่องปิดฝาอีกที โดยตอนนี้ยังไม่ต้องเอา แหนมเห็ด เข้าตู้เย็น แต่ควรแน่ใจว่าจุดที่เก็บปลอดภัยจากแมลงต่างๆ เว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมและมีการพัฒนาหลากหลายรูปแบบในการจ่ายผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูง แถมยังสมัครสมาชิกฟรีที่ UFABET หลังจากพ้น 3 วันไปแล้วให้ลองแกะชิมรส ถ้าเปรี้ยวพอดีแล้วค่อยเอาเข้าตู้เย็นต่อไป เต้าหู้ไข่ วัตถุดิบที่มีคุณประโยชน์มากมายรสชาติอร่อย เมนูน้ำพริกมะขาม ทีเด็ดสำหรับคนชอบกินรสจัดจ้าน เมนูอาหารคีโต ควบคุมน้ำหนักแถมดีต่อสุขภาพร่ายกายด้วย เมนูคั่วกลิ้งปลา เมนูอาหารรสเผ็ดแต่บอกเลยว่าอร่อยไม่แพ้เมนูใด