สำหรับผู้ที่ดื่มชาและกาแฟเป็นประจำ หรือเป็นคนที่กำลังเริ่มจะลิ้มลองเครื่องดื่มประเภทนี้ คาเฟอีน เป็นสารสำคัญตัวหนึ่งที่ควรต้องทำความเข้าใจเอาไว้ เพราะเมื่อสารชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายแล้วจะเกิดปฏิกิริยาหลายอย่าง บางคนตื่นตัวกำลังดี บางคนมีอาการใจสั่น บางคนปวดท้อง ไปจนถึงหน้ามืดก็มีเหมือนกัน เราต้องรู้ว่าจะดูแลตัวเองอย่างไรถึงจะได้รับสารนี้ในปริมาณที่พอดี เพื่อให้ได้รับประโยชน์เต็มที่และมีผลข้างเคียงที่ไม่มีต่อสุขภาพน้อยที่สุด เว็บไซต์รวบรวมข้อมูลการทำอาหาร
ระดับความเข้มของเครื่องดื่มไม่มีผลกับ คาเฟอีน
บางคนเข้าใจว่าการดื่มชาอ่อนหรือกาแฟคั่วอ่อน จะช่วยให้ปริมาณคาเฟอีนลดน้อยลง แต่มันเคยมีงานวิจัยออกมาชัดเจนแล้วว่า ระดับการคั่วของกาแฟนั้นสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อสารสำคัญในเมล็ดกาแฟน้อยมาก จนสามารถพูดได้ว่าไม่แตกต่างกัน สิ่งที่เราควรให้ความใส่ใจจึงเป็นเรื่องสายพันธุ์ แหล่งที่มา และกรรมวิธีในการเก็บเกี่ยวผลผลิตมากกว่า และถ้ารู้สึกว่าตัวเองอ่อนไหวกับสารนี้ ก็ให้ลดปริมาณลงแทนการทานชนิดอ่อน
คาเฟอีนในชาและกาแฟดูดซึมได้ดีกว่าตอนท้องว่าง
เคยสังเกตไหมว่าการกระตุ้นของสารคาเฟอีนจะรุนแรงกว่า หากเราดื่มกาแฟหรือชาในช่วงที่ท้องยังว่าง ผู้ที่ไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มนี้เป็นประจำจนร่างกายคุ้นชินแล้ว จึงมักจะมีอาการไม่สบายตัวทุกครั้งที่เลือกดื่มในช่วงเช้าก่อนมื้ออาหาร แต่ไม่นานก็จะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ อย่างไรก็ตาม การทานอะไรเบาๆ พร้อมเครื่องดื่ม หรือเปลี่ยนมาดื่มหลังมื้ออาหารก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
เร่งการขับคาเฟอีนออกจากร่างกายได้ด้วยน้ำเปล่า
กรณีที่เราดื่มกาแฟหรือชาแล้วรู้สึกไม่ดี เช่น มวนท้อง เวียนหัว ใจเต้นเร็ว เป็นต้น ให้เร่งการขับคาเฟอีนออกจากร่างกายด้วยการดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น เพราะทุกครั้งที่ปัสสาวะก็จะช่วยลดปริมาณสารนี้ให้น้อยลง ไม่นานก็จะรู้สึกดีขึ้นได้เอง หรือถ้ารู้สึกแย่มากจริงๆ ให้นอนพักร่วมด้วย จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น แต่ถึงแม้คุณจะไม่ได้รู้สึกอะไรก็ตาม ทุกครั้งที่ดื่มชาหรือกาแฟก็ควรจิบน้ำเปล่าให้มากกว่าปกติด้วย
